งงทั้งประเทศ ?! เพลงดังนำภัย คนร้องติดคุก คนแต่งโดนไล่ล่า😳

เพลงดังมหาภัยคนร้องติดคุกคนแต่งหวิดเข้า ซังเตเรากล้าท้าว่าผู้ชมผู้ฟังที่มีอายุ หลัก 3 เปรปลายหรือหลัก 4 ขึ้นไปย่อมต้อง รู้จักหรือเคยร้องเพลงดังๆของครูเพลงท่าน นี้มาแล้วทั้งโดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวที่ กล่าวเช่นนี้ก็เพราะท่านเป็นสุดยครูเพลง ผู้ปิดทองหลังพระอย่างแท้จริงหลายคนรู้

จักจดจำผลงานเพลงที่ท่านประพันได้แน่ๆ เพียงแต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนแต่งครูเพลง ท่านนี้มีชื่อว่าครูสุเทพโชคสกุลผู้ ประพันธ์เพลงแม่พิมพ์ของชาติอันลือลั่นแง เรืองๆที่สองประเทืองอยู่ทั่วเมืองไทยคือ แม่พิมอันน้อยใหญ่โอครูยใน แดนมนเพลงตลาดแล้วครูสุเทพโชคสกุลยังได้

รับการยกย่องว่าเป็นราชาเพลงประกอบบท เรียนนี่แหละครับเหตุผลใหญ่ๆอีกข้อหนึ่ง ที่เรากล้าท้าว่าท่านที่เคยเป็นนักเรียน มาก่อนย่อมเคยร้องเพลงที่ครูสุเทพโชคสกุล ได้ประพันธ์ไว้อย่างแน่นอนยกตัวอย่างเช่น เพลงความเกรงใจความเกรงใจเป็นสมบัตของผู้ ดีดูสิทุกคนก็มีหัวใเิดเป็นคน้าหากไม่เง

ใดใครคนนใไร คตรงต่อเวลาตรงต่อเวลาพวกเราต้องมาให้ตรง เวลาตรงรงตรงเวลาพวเราต้องมาให้ตรงเวลา ความซื่อสัตย์อย่าเกลียดคร้านเป็นต้นแม้ แต่ในภาพยนตร์ครูบ้านนอกอรือลั่นก็ยังใช้ เพลงของครูสุเทพโชคสกุลประกอบด้วยเช่น เพลงปลูกผักที่น่าทึ่งสุดๆก็คือครูสุเทพ

เป็นผู้ริเริ่มการสอนหนังสือด้วยเพลงเป็น คนแรกของเมืองไทยเมื่อได้ผลดีและแพร่หลาย ผลงานของท่านก็เป็นที่รู้จักไปจนถึง ประเทศสหรัฐอเมริกานอกจากนี้ท่านยังมีผล งานอีกมากมายมีเพลงดังทั่วประเทศอีกหลาย เพลงเช่นมนต์การเมืองเสียง โฆษณาของนักการเมืองยกเอาแต่เรื่องที่ดี

งามมาพูด จามีามาใช้ให้ชาวไร่ชาวนาได้ดูได้ชมกัน ทั่วหน้าระรื่นตื่นตากันทั่วไปหวยใต้ดิน และชีวิตครูเป็นต้นหนึ่งในจำนวนเพลงดังๆ นี้มีอยู่เพลงหนึ่งที่ดังจนเกือบทำให้ ท่านได้เข้าไปอยู่ในเรือนจำหรือหวิดติด คุกนั่นเองรายละเอียดจะเป็นยังไงขอเชิญ ติดตามทำความรู้จักครูเพลงอัจฉริยะอีก

ท่านหนึ่งของเมืองไทยได้เลยครับครูสุเทพ โชคสกุลเดิมมีชื่อว่าสงัดเกิดเมื่อวันที่ 7 มีนาคมปี 2470 ที่บ้านตั้งใหม่ริมแม่ น้ำท่าจีนตำบบลท่าพี่เลี้ยงอำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรีเป็นบุตรของนายเวทและ นางเม้าท์โชคสกุลนามสกุลโชคสกุลนี้เพี้ยน มาจากโฮกสกุลที่เพี้ยนมาจากคำว่าโค้สกุล

ซึ่งเกิดจากเจ้าหน้าที่เขียนคำว่าโค้สกุล แบบหวัดเกินไปจนนามสกุลได้เพี้ยนจากโค้ สกุลเป็นโฮกสกุลต่อมาจึงกลายเป็นโชคสกุล ในวัยเด็กตอนครูสุเทพอายุ 5-6 ขวบได้ เรียนหนังสือกับพระที่วัดชัยนาวจนอ่านออก เขียนได้ต่อมาได้เข้าเรียนในระบบที่โรง เรียนวัดสารพีจนจบชั้นประถมศึกษาเมื่อปี

2478 เด็กชายสงัดเป็นคนเรียนหนังสือเก่ง สอบได้ที่ 1 ตลอดในระหว่างเรียนชั้นประถม นอกจากเรียนเก่งแล้วยังมีนิสัยชอบร้อง เพลงมาตั้งแต่เด็กและร้องเพลงได้ดีด้วย ช่วงเรียนอยู่ชั้นประถมก็ได้ฉายแววเด่น ด้านเพลงโดยได้รับคัดเลือกเป็นต้นเสียง

ร้องเพลงชาติหน้าเสาธงตอนเช้าทุกวันและ เป็นต้นเสียงการร้องเพลงทุกเพลงของโรง เรียนเช่นนำร้องเพลงสรรเสริมพระบารมีทุก ครั้งด้านดนตรีเด็กชายสงัดก็ได้ฝึกหัด เล่นดนตรีจากพี่ชายซึ่งมีคณะแตรวงพี่ชาย ให้หัดเป่าแตรต่อนิ้วให้ 2-3 เพลงก็เป่า ได้เมื่อวงแตรวงของพี่ชายมีงานก็จะมารับ ไปเป็นหางเครื่องตีฉาบใหญ่ฉาบเล็กชิงกรอง

แต๊กได้รับค่าแรงมากบ้างน้อยบ้างก็นำมา ซื้อสมุดดินสอเสื้อผ้าโดยไม่ได้รบกวนเงิน ทางบ้านในยุคที่ภาพยนตร์ยังเป็นแบบหนัง เงียบอยู่สงัดก็หารายได้ด้วยการเป็นคน เป่าแตรน่าโรงหนังจึงได้ดูหนังดูละครทุก เรื่องจนจำเพลงละครมาร้องได้หมดได้ค่าแรง คืนละ 10 สตางค์จนสามารถหาเงินซื้อควาย

ให้พ่อแม่ได้อย่างไรก็ตามพอเรียนจบชั้น ประถมเขาก็ไม่มีโอกาสได้เรียนต่อในปี 2488 ระหว่างเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 หนุ่ม สงัดได้รับคัดเลือกจากกองทัพญี่ปุ่นให้ เป็นกะลาสีเดินเรือทะเลโดยได้ฝึกอยู่ที่ ท่าเรือคลองเตยจังหวัดพระนครช่วงเช้าพอ ฝึกเสร็จก็ต้องเรียนภาษาญี่ปุ่นซึ่งในการ

เรียนมีการใช้เพลงมีเปียโนคลอขณะร้องเพลง ทำให้เขาได้เรียนภาษาญี่ปุ่นอย่างสนุก สนานเพลิดเพลินและได้รับความรู้เรื่อง โน้ตดนตรีไปด้วยต่อมาได้เกิดขบวนการเสรี ไทยขึ้นหนุ่มสงัดจึงหนีจากเรือญี่ปุ่นไป อยู่โรงงานเครื่องปั้นดินเผาที่อำเภอ นครชัยศรีจังหวัดนครปฐมกลางคืนก็ได้ล่อง

เรือร้องเพลงไปกับครูโรงเรียนวัดงิ้วราย คนหนึ่งตามลำน้ำจนถึงตลาดนครชัยศรีได้รับ ความนิยมจากชาวบ้านนครชัยศีเป็นอันมาก เมื่อถึงปลายปี 2488 หนุ่มสงัดก็ได้กลับ ไปอยู่ที่สุพรรณบุรีต่อมาทางอำเภอเมือง สุพรรณบุรีกำลังจะตั้งวงแตรวงของอำเภอพอ ดีจึงประกาศรับผู้ที่มีความรู้ระดับ

ประถมศึกษาและเป่าแตรเป็นให้จุเป็นครูโรง เรียนประถมศึกษาเพื่อเป่าแตรวงของอำเภอ หนุ่มสงัดจึงไปสมัครและได้รับบรรจุเป็น ครูที่โรงเรียนวัดพิหารแดงเมื่อปี 289 ได้รับเงินเดือนเดือนละ 8 บาทเวลานั้น เป็นระยะสงครามเข้าวของเครื่องใช้ขาดแคลน และมีราคาแพงความเป็นอยู่ของครูสงัดจึง ค่อนข้างขัดสนกลางคืนต้องออกเร่เรือขาย อ้อยควันขายข้าวโพดคั้วตามลำน้ำท่าจีนได้ กำไรคืนละ 2-2 .

50 ตังชีวิตของครูสงัด ซึ่งต่อมากลายเป็นครูสุเทพมีจุดเปลี่ยน สำคัญอีกครั้งเมื่อมีมีครูบางคนในโรง เรียนสดประมาทว่าเขาไม่มีความรู้แต่ที่ ได้เป็นครูเพราะเป่าแตรเป็นเท่านั้นเอง สิ่งนี้จึงกลายเป็นแรงผลักดันให้เขาซึ่ง เป็นคนมีสติปัญญาดีแถมขยันขันแข็งเป็นต้น ทุนอยู่แล้วเร่งมุมานะศึกษาหาความรู้และ สมัครสอบวิชาชุดครูจนได้รับประกาศนียบัตร ประโยคครูพิเศษมูลหรือพอในปี 2493 ได้ ประโยคครูพิเศษประถมพปในปี 2498 และได้ประโยคครูพิเศษมัธยมหรือพมใน ปี 25 ซึ่งนับว่าได้มายากยิ่งในวงการครูสมัย นั้นจุดนี้เองพอได้รับการบรรจุเป็นข้า ราชการจึงได้ใช้ชื่อว่าสุเทพโชคสกุลเพื่อ

เข้าทำงานรัชการความขยันหมั่นเพียรต่อ เนื่องส่งผลให้ครูสุเทพโชคสกุลมีความก้าว หน้าในหน้าที่การงานตามลำดับคือปี 2489 ถึงปี 2491 เป็นครูจัตวาโรงเรียนวัดพิหาร แดงปี 2492 ถึงปี 2496 เป็นครูจัตวาโรง เรียนวัดลาวทองจากนั้นก็เลื่อนขั้นไป เรื่อยๆจนถึงขั้นสูงสุดคือได้เป็นหัวหน้า

ฝ่ายศึกษานิเทศมีหน้าที่ให้การอบรมและให้ ความรู้ครูทั่วประเทศจนกระทั่งท่านลาออก จากรัชการในปี 2529 ช่วงปี 2495 ขณะที่ เป็นครูจัตวาอยู่นั้นครูสุเทพได้แต่งเพลง เสี่สีการเมืองให้คำรนสัมบุญณานนท์นัก ร้องดังสมัยนั้นร้องอัดแผ่นเสียงหลายเพลง เช่นมนต์การเมืองหวยใต้ดินและชีวิตครูแต่

ละเพลงล้วนได้รับความนิยมในวงกว้างทั้ง นั้นเพราะมีเนื้อหาที่โดนใจถนนหนทางที่ ว่าจะสร้างก็ยังไม่ไม่มีมันกินอีสายกันฝน ีถนนจะมีกันได้ยัง ไงเขาเป็นผู้แทนกันยังไม่ทันเท่าไรทรัพย์ สินเงินทองมีมากมายมันน่าแปลกใจเมื่อคี ขึ้นมาแต่เพลงที่คล้ายๆพูดแทนใจเป็น กระบอกเสียงคนทั่วประเทศนี้กลับเป็นเพลง ที่ผู้มีอำนาจตอนนั้นไม่ปลื้มนักเหมือน เพลงไปแทงใจดำเข้ายังไงอย่างั้นเพลงซึ่ง เป็นผลงานการแต่งของูสุเทพโชคสกุลและขับ ร้องโดยครูคำรนสัมบุญณานนท์ที่มีหลักฐาน บันทึกว่าไปกระเทือนซางหรือขัดหูขัดใจ ท่านผู้นำถึงขั้นสั่งแบนห้ามเปิดทั้งๆที่

เพลงนั้นเป็นเพลงชีวิตรักในครอบครัวไม่ ใช่เพลงเสี่สีอย่างเพลงมนต์การเมืองเพลง ที่โดนแบนนั้นก็คือเพลงที่มีชื่อว่ามึง มันชั่วมึงมันชั่ว นมึงมันชั่ว นมึงมันชั่น มึงมันชั่วนับกูจึงหมดรักหมด อะไลดูแต่ลูกในไ้มึงยังทิ้งไปไม่เหลียว แลคอลัมน์ประวัติศาสตร์ในนิตยสาร

ศิลปวัฒนธรรมเผยแพร่เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนปี 2565 เขียนโดยคุณคนไกลวงนอก ได้เขียนเล่าถึงเรื่องนี้ว่าเมื่อประมาณ ปี 2503 ระหว่างที่จอมพลสดิตรอท่านผู้ หญิงวิจิตราจัดเตรียมอาหารกลางวันให้นกอง พลที่ 1 ก็เลยเปิดวิทยุฟังเพลงค่าเวลา เมื่อหมุนมาหยุดที่คลื่นสถานีวิทยุแห่ง

หนึ่งจอมพลสฤษดิ์ก็ได้ยินเสียงร้องจาก วิทยุตรงท่อนที่ว่ามึงมันช่ว นมึงมันชั่ว นมึง มันเท่านั้นเองจอมพลสดิตก็เอามือปัดวิทยุ และของอื่นๆจนตกโต๊ะแตกกระจายเหตุการณ์ใน ครั้งนั้นนายประสานินจารุนักจัดรายการ วิทยุนักร้องและนักแสดงตลกที่ใช้ชื่อใน การแสดงว่าทองแป๊ะได้บอกเล่าจากการรับฟัง จากพล.

ตำรวจตรีสำราญกลัดเพชรศิริผู้ บังคับการกองปราบปรามซึ่งสนิทกับจอมพล สิทิ์มาอีกทอดหนึว่าหลังจากได้ยินเพลงดัง กล่าวแล้วจอมพลสฤษดิ์จึงเรียกผู้การกอง ปราบคือพล.ตำรวจตรีสำราญไปพบแล้วสั่งให้ ไปจับสถานีวิทยุวรจักรทั่วฐานเปิดเพลงบอล ทำลายเสียดสีท่านซึ่งคุณประสาสินจารุเป็น

หัวหน้าสถานีอยู่จึงได้บอกผู้การกองปราบ ไปว่าเพลงนี้ไม่ได้เปิดเฉพาะสถานีเราคือ สถานีวิทยุเสียงวรจักรเท่านั้นแต่ทุก สถานีเขาเปิดกันทั้งนั้นพลตำรวจตีสำราญก็ เลยบอกว่าให้ผมไปหาหลักฐานเพื่อเอาไปยืน ยันว่าสถานีไหนเปิดกันบ้างคุณประสานจึง ต้องไปหาตามสถานีต่างๆจากนั้นพลตำรวจตรี สำราญก็นำหลักฐานไปให้กับจอมพลสฤษดิ์

เมื่อเจอกันจอมพลสฤษดิ์ก็ถามขึ้นว่าสถานี วิทยุที่เปิดเพลงดังกล่าวในเวลานั้นในวัน นั้นคือสถานีไหนเมื่อได้ฟังคำตอบจากผู้ การกองปราบจอมพลสดิตถึงกับร้องะเพราะไม่ คิดว่าสถานีที่เปิดเปิดเพลงให้ตนมีอาการ เคคิงขุ่นนั้นก็คือสถานีวิทยุเสียงวรจักร ที่ตั้งอยู่ในกองปราบนั่นเองจากการสอบถาม

และจากข้อมูลที่คุณประสานรวบรวมมาให้สรุป ได้ว่าเป็นการเปิดเพลงโดยไม่ได้มีเจตนา ที่จะเสียดสีจอมพลสฤษดิ์และเพลงดังกล่าว ก็มีมานานแล้วและสถานีวิทยุหลายๆแห่งก็ ต่างเปิดกันจอมพลสฤษดิ์ย้อนถามอีกว่าเพลง นี้ใครเป็นคนร้องพลตำรวจตรีสำราญก็ตอบว่า คำรวนร้องจากนั้นจอมพลสิริกก็สั่งแบนด์

เพลงมึงมันชั่วทันทีห้ามสถานีวิทยุต่างๆ เปิดเพลงนี้ต่อไปอีกเป็นอันขาดว่ากันว่า ครูสุเทพโชคสกุลเกือบติดคุกเพราะผู้นำขณะ นั้นมีคำสั่งให้ตามหาตัวผู้แต่งเพลงเสียด สีซึ่งคำรนสัมบุญณานนท์ผู้ร้องเพลงแนวนี้ ก็ถูกจับเข้าคุกหลายครั้งหลายหนและต่อมา

คำรนสัมบุญณานนท์ยังถูกแจ้งข้อกล่าวหาว่า เป็นกบฏแผ่นดินด้วยแต่เดชบุญตอนนั้นเจ้า หน้าที่หาตัวครูสุเทพไม่พบจึงรอดคุกมาได้ ในปี 2501 ครูสุเทพได้แต่งเพลงแม่พิมพ์ ของชาติให้วงจันทร์ไพโรจนนักร้องดังยุค นั้นขับร้องปรากฏว่าเพลงโด่งดังมากแต่ว่า กันว่าผู้แต่งเพลงไม่ค่อยได้เงินค่าตอบ แทนเท่าไหร่ครูสุเทพโชคสกุลเคยตั้งวง

ดนตรีและทำแผ่นเสียงเองมีนักร้องชื่อดัง ร่วมงานกับท่านหลายคนเช่นคำรน สัมบุญณานนท์สมยศทัศนพันธ์ชัยชนะบุญโชติ ก้านแก้วสุพรรณสมศรีม่วงสรเขียวศรีสะอาง ตรีเนตรวงจันทร์ไพโรจสุเทพวงกำแหงธานิน อินทรเทพรังสิยาวรรณกรเป็นต้นแม้ครูสุเทพ จะมีโอกาสศึกษาเล่าเรียนในโรงเรียนเป็น เวลาอันเล็กน้อยและต้องศึกษาค้นคว้าด้วย ตนเองเป็นส่วนใหญ่จนได้เป็นหัวหน้าหนฝ่าย นิเทศการศึกษาของจังหวัดสุพรรณบุรีแต่ ท่านก็ได้สร้างผลงานที่สำคัญนั่นคือเป็น ผู้ริเริ่มการสอนหนังสือด้วยเพลงเป็นคน แรกของเมืองไทยการเรียนการสอนแต่เดิมนั้น จะมีการร้องเพลงกันเพียงสัปดาห์ละครั้ง

ครั้งละชั่วโมงในวันสุดสัปดาห์ถ้าร้อง เพลงผิดเวลาเพื่อนครูก็จะแสดงความไม่พอใจ บางคนก็ต่อต้านบางคนก็เห็นด้วยทำให้ครู สุเทพต้องใช้ความพยายามสร้างความเข้าใจ ให้แก่เพื่อนครูมาโดยตลอดจนเป็นที่ยอมรับ ในปัจจุบันว่าเพลงประกอบการเรียนสามารถ ใช้ในกระบวนการจัดการเรียนการสอนได้ในทุก

ขั้นตอนในกานี้ครูสุเทพได้ใช้ความรู้ด้าน ดนตรีประสบการณ์ด้านร้องเพลงและความ สามารถในการประพันธ์เพลงหล้อมรวมเป็นการ แต่งเพลงสั้นๆง่ายๆประกอบบทเรียนสะสมไว้ เรื่อยๆเมื่อมีโอกาสก็แนะนำครูผู้สอน ครั้งละเพลง 2 เพลงเรื่อยมาพอรวบรวมเนื้อ เพลงที่ประพันธ์ไว้ได้กว่า 100 เพลงใน

กลุ่มวิชาสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตจึง ได้ส่งให้วารสารวิทยาศาและวารสารมิตรครู ซึ่งขณะนั้นเป็นวารสารการศึกษาที่แพร่ หลายไปยังสถานศึกษาทุกระดับนำเพลงเหล่า นี้ลงตีพิมพ์ประกอบโนสากลเพื่อเผยแพร่ต่อ มาก็ได้แต่งเพลงในวิชาอื่นๆอีกหลายวิชา

และลงทุนทำแผ่นเสียงเพื่อให้กระจายความ คิดไปทั่วประเทศแม้จะประสบอุปสรรคปัญหา มากมายแต่ครูสุเทพก็สามารถฟันฝ่าจนประสบ ความสำเร็จเป็นที่รู้จักไปจนถึงสหรัฐ อเมริกาเพลงที่ท่านสร้างสรรค์ขึ้นมาได้ รับความนิยมมากไม่แต่เฉพาะวงการศึกษาเท่า นั้นยังแพร่หลายไปทั่วทุกวงการเช่นวงการ ลูกเสือชาวบ้านเพลงดังกล่าวก็เช่นเพลงตรง

ต่อเวลาความเกรงใจความซื่อสัตย์อย่า เกลียดคร้านเป็นต้นจากผลงานด้านเพลงเหล่า นี้ทำให้ครูสุเทพได้รับการยกย่องว่าเป็น ราชาเพลงประกอบบทเรียนและในปี 2517 กระทรวงศึกษาธิการได้มีหนังสือชมเชยครู สุเทพว่าเพลงภาษาไทยและศีลธรรมที่จัดทำ ขึ้นนั้นเหมาะสมและมีประโยชน์ต่อการศึกษา

มากเชื่อเสียงของครูสุเทพด้านการประพันธ์ คำร้องและทำนองเพลงเป็นที่เลื่องลือในวง การศึกษาโดยเฉพาะบรรดาครูระดับประถมศึกษา ได้ใช้เพลงประกอบการเรียนการสอนระดับ ประถมศึกษาทุกกลุ่มประสบการณ์ทั่วประเทศ นอกจากนี้ท่านยังร้องเพลงได้ดีด้วยและเคย บันทึกแผ่นเสียงหลายเพลงเท่าที่พอหาฟัง

ได้ก็เช่นเพลงถิ่นไทยเดิมน้ากำพร้าลา แม่กำพระพมามวล ญาตไม่เสียชาติที่เกิดมาได้พก พธากายกรวจีกรมโนกรรม สิ่งใดได้ทำผิดไปอภัยให้ ันหลุยปาสเตอร์เป็นต้นลุยปาสเตอร์พบว่ามี จุ อินทรียจึงคิดวิธีทำลายเื่อโรคมีอันตราย ครูสุเทพโชคสกุลได้ประพันธเพลงเกี่ยวกับ ชีวิตครูไว้เป็นอันมากเช่นเพลงครูโรง เรียนราชยครูแถลงการณ์แม่พิมพ์ใจพระมาช ครูแม่พิมพ์ของชาติพระคุณที่ 3 ซึ่งเป็น เพลงที่ทำให้ผู้ฟังได้รับรู้ถึงชีวิตอลำ เคนของครูประชาบาลในสมัยนั้นโดยเฉพาะเพลง แม่พิมพ์ของชาติที่ขับร้องโดยวงจันทร์ ไพโรจนั้นเป็นเพลงที่ได้รับความนิยมตั้ง

แต่อดีตเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันทำให้ครู สุเทพได้รับรางวัลเพลงเกียรติยศในงานกึ่ง ศตวรรษเพลงลูกทุ่งไทยจากคณะกรรมการ วัฒนธรรมแห่งชาติกระทรวงศึกษาธิการในปี 2512 ปัจจุบันนี้กลายเป็นเพลงอมตะและมี นักร้องนำไปขับร้องใหม่กันหลายคนแม้ในปี 2529 ครูสุเทพโชคสกุลได้ลาออกจากราชการ

แต่ก็ยังช่วยงานการศึกษาและงานสังคมอยู่ ไม่ขาดโดยเฉพาะบรรดาครูโรงเรียน ประถมศึกษาในจังหวัดสุพรรณบุรีจะมาขอคำ ปรึกษาขอคำชี้แนะด้านการจัดการเรียนการ สอนและการปฏิบัติงานอยู่เสมอบั้นปลาย ชีวิตเนื่องจากครูสุเทพเป็นคนสูบบุหรี่ จัดเมื่ออายุมากขึ้นร่างกายจึงทรุดโทรม

อย่างรวดเร็วในวันที่ 6 สิงหาคมปี 2530 ราวๆ 1 ปีหลังจากที่ท่านลาออกจากรัชการ ท่านได้เกิดอาการแน่นหน้าอกจึงไปตรวจพบ ว่าเป็นโรคถุงลมโป่งพองและต้องรักษาตัว ที่โรงพยาบาลอย่างต่อเนื่องแต่เวลาผ่านไป เพียงราวๆ 2 สัปดาห์กว่าท่านก็ได้ได้เสีย ชีวิตลงในวันที่ 24 สิงหาคมปี 2530 ิริ อายุ 59 ปี 5 เดือน 17 วันนี่คืออีกหนึ่ง สุดยอดครูเพลงที่เป็นครูอย่างแท้จริงทั้ง ในแง่การสร้างสรรค์ผลงานล้ำค่ามหาศาลทั้ง สร้างเพลงฮิตเพลงดังและเพลงที่ใช้ในรั้ว โรงเรียนในกิจกรรมการศึกษาตลอดจนเป็นครู ชีวิตในแง่ที่เป็นผู้มีมานะพราคเพียร พัฒนาจากผู้มีความรู้ไม่มากแล้วบากบั่น

ศึกษาเรียนรู้ฝึกฝนด้วยตนเองจนกลายเป็น ผู้ประสบประบความสำเร็จในชีวิตที่ได้ สร้างประโยชน์ตนและเป็นประโยชน์ต่อผู้คน ในวงกว้างครูสุเทพโชคสกุลเชื่อนี้ควรแก่ การคารวะและสำนึกขอบคุณเป็นอย่างยิ่งี่ Channel ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจากข้อ เขียนของคุณทเนตรขำเกิดคุณชนะโชคสกุลและ สื่อออนไลน์และขอขอบคุณเพลงประกอบที่มี ผู้ลงไว้ขอบคุณมากครับความเพงใจสมบัตของ ผู้ ดีดู ก็มีหัวใจ