โดนยิงสาหัสปางตาย ! นักร้องดังมรสุมรุมเร้า เจ็บหนักเกือบเอาชีวิตไม่รอด นอนน้ำตาไหล รอวันตาย😭

แต่ โดนยิงปางตายนักร้องดังเจอมรสุมรุมหนัก เกือบเอาชีวิตไม่รอดนอนรอวันตาย ตอนนั้นพี่ไม่มีสภาพเย็นกินหรืออยู่เลย ตัวจะผอมแล้วก็ดำแบบใหม่ๆจากโรคภัยหลาย อย่างและบาดแผลที่ถูกยิงได้แต่นอนน้ำตา ไหลเดินเหินไม่ได้นอนรอวันตายอยู่อย่าง นั้นนี่คือคำให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว

เมื่อหลายปีก่อนโดยเย็นจิตรพรเทวีนักร้อง ชื่อดังระดับตำนานซึ่งมีผลงานเพลงดังหลาย เพลงแต่ที่แฟนเพลงจดจำได้ดีที่สุดก็คือ เพลงคิดถึงทุ่งรีลายที่ร้องว่าจากอีสาน บ้านนามาอยู่กรุงจากแดนทุ่งลุยหินละห้าๆ ชีวิตของนักร้องชื่อดังทั้งนี้พลิกผัน หลายตลกอยู่ในแง่บวกและด้านลบเริ่มต้นจาก

เป็นนักร้องประกวดสุนัขร้องห้องอาหาร ชีวิตพริกเปลี่ยนทะยานสู่การเป็นนักร้อง ดังระดับประเทศและมีดนตรีเป็นของตัวเองใน วัยเพียง 22 ปีมีเพลงฮิตติดหูต่อเนื่อง หลายปีแล้วอนึ่งคนรักที่เธอไว้ใจก็ไม่มี อย่างอื่นทำให้ช้ำใจหนักถึงขั้นคิดสั้น กินยาหมายจะดับชีวิตตัวเองอยู่ 2-3 ครั้ง

แต่ก็มีผู้พบเหตุช่วยส่งตัวไปรักษาที่โรง พยาบาลจึงรอดมาได้เท่านั้นยังไม่พอต่อมา อีกหลายปีซึ่งเลือดฝอยในคอแตกต้องรักษา ตัวงดรับงานรายได้โหท้ายต้องเป็นหนี้เป็น สินติดตัวอยู่หลายปีที่นั่นส่วนก็คือเคย ถูกยิงปางตายจึงกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งมา แล้วเธอได้รับบาดเจ็บสาหัสครั้งตัวเอง

อยู่ในห้องจนผอมแห้งหนังหุ้มกระดูกนร.วัน ตายดังคำสัมภาษณ์ข้างต้นเคยท้อจนคิดจะ เลิกร้องเพลงตั้งแต่คราวโดนยิงจากนั้นมา พ่อแม่ก็เสียชีวิตชีวิตเธอล้มเหลวเส้น เสียงแตกและเป็นโรควูบอยู่ต่อเนื่องอย่าง ไรก็ดีในที่และเธอก็ผ่านจุดนั้นมาได้กลาย เป็นนักร้องสาวแมวเก้าชีวิตที่ผ่านมรสุม

รุมกระหน่ำต่อเนื่องทานเรื่องราวเชียร์ ตายมาหลายครั้งแต่ก็ยังยืนหยัดอยู่บนเส้น ทางสายเพลงมาจนถึงทุกวันนี้ได้อย่างสวย งามกลายเป็นตำนานที่ยังมีลมหายใจในวัยอก 15 ปีปัจจุบันหลายคนเรียกท่านว่าแม่เย็น จิตรพรเทวีสำหรับรายละเอียดสีสันของชีวิต ทั้งบวกและลบเย็นจิตรพรเทวีเคยเขียนเล่า

ประวัติเส้นทางชีวิตของตัวเองตั้งแต่ เริ่มต้นไว้ดังต่อไปนี้เย็นจิตรพรเทวีมี ชื่อจริงว่าส้มกลีบชุม RE นอกเกิดเมื่อ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ปี 2500 ที่อำเภอ บัวใหญ่จังหวัดนครราชสีมาเป็นบุญของคุณ พ่อกว้างคุณแม่เพียรชุมตรีนอกพ่อแม่มี

บุตรทั้งหมด 12 คนเย็นจิตเป็นลูกคนที่ 4 ต่อมาคุณพ่อคุณแม่ได้ผ่านครอบครัวตัวย้าย มาอยู่ที่บ้านละหานนาตำบลละหานนาอำเภอ แวงน้อยจังหวัดขอนแก่นชีวิตของเด็กหญิง ส้มกลีบชุมตรีนอกในวัยเด็กเป็นคนชอบสนุก สนานร่าเริงและกล้าแสดงออกขอร้องเพลงตอน สมัยเรียนเวลาอยู่ในชั้นเรียนครูก็จะให้ ไปร้องเพลงหน้าชั้นเรียนเป็นประจำนิสัย

ส่วนตัวนอกจากจะเป็นคนสนุกสนานร่าเริง แล้วยังเป็นคนใจบุญสุนทานชอบทำบุญทำทาน และเข้าวัดตั้งแต่เด็กๆหลังจากที่เรียนจบ ชั้นป ๔ จากโรงเรียนบ้านละหานนาอำเภอ แวงน้อยจังหวัดขอนแก่นแล้วได้ยินส้มกลีบ ก็ไม่ได้เรียนต่อเธอได้ย้ายไปอยู่กับคุณ ลุงช่วยคุณลุงทำไร่ข้าวโพดพระยาสูบที่

อำเภอลำนารายณ์ซึ่งตอนนั้นจะมีอายุได้ เพียง 12 ปีในช่วงนั้นหลังจากเสร็จจากการ ทำได้แล้วในตอนเย็นๆถ้ามีงานที่ไหนไม่ว่า จะเป็นงานบวชงานแต่งหรืองานขึ้นบ้านใหม่ หรืองานอะไรก็แล้วแต่ได้ยินส่งคลิปก็จะ ถูกเชิญให้ไปร้องเพลงอยู่ทุกงานทุกคนจะ รู้จักเธอในนามของน้องแขกหลังจากนั้นพอ

เธออายุย่างเข้า 16 ปีก็ย้ายไปอยู่กับคุณ ลุงมีคนซึ่งเป็นพี่ชายของแม่ที่บ้านลวง จังหวัดนครราชสีมาแล้วก็ได้ช่วยคุณลุงทำ ได้ทำนายจากนั้นเมื่ออายุเข้า 18 ปีคุณ พ่อคุณแม่ก็ได้ให้แต่งงานและสามีก็พาที่ อยู่ที่จังหวัดระยองรับจ้างทำไร่อ้อยตัด

อ้อยเธอกับสามีอยู่กินจนมีบุตรด้วยกัน 3 คนเป็นหญิง 1 คนและแฟนชายสองคนแต่ได้เสีย ชีวิตไปหนึ่งคนคือแฝดผู้พี่เมื่อตอนอายุ 2 ขวบหลังจากที่คลอดลูกได้ 8 วันเธอกับสามี ก็ได้แยกทางกันเธอพาลูกทั้งสามคนไปอยู่ กับคุณพ่อคุณแม่ที่บ้านละหานนาจังหวัด ขอนแก่นคุณพ่อคุณแม่พี่สาวก็ได้รับอาสา เลี้ยงดูลูกทั้งสามของเธอเพราะตอนนั้นเธอ

เองยังไม่แข็งแรงทุกคนช่วยกันปลอบใจและ ให้กำลังใจตลอดมาจนสุขภาพร่างกายของเธอ แข็งแรงจากนั้นเธอก็ไปทำงานรับจ้างทั่วไป ทำทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นขายเสื้อผ้าขาย อาหารเธออดทนทำทุกอย่างเพื่อแลกกับเงิน เพื่อที่จะแปรเปลี่ยนมาเป็นค่านมให้ลูกใน ช่วงที่รับจ้างทำงานอยู่นี่เวลาที่ไหนมี

งานประจำปีหรืองานรื่นเริงเธอก็ยังคงรับ จ้างร้องเพลงตามงานอยู่เรื่อยๆต่อมาในปี 2522 เป็นช่วงที่การร้องเพลงเพราะกวน กำลังได้รับความนิยมและทุกที่ทุกเวทีที่ มีการประกวดร้องเพลงในจังหวัดขอนแก่นสาว ส้มกลีบมาร่วมประกวดอยู่ทุกงานและก็มักจะ ได้รับรางวัลชนะเลิศเกือบทุกงานเพลงที่

เธอใช้ประกวดส่วนใหญ่เป็นเพลงของคุณแม่ ผ่องศรีวรนุชและจะเลือกเพลงไหนว่าไม่ลืม เพราะเธอชอบเพลงนี้จนทุกคนรู้จักเธอในนาม สาวแขกต่อมามีคนชักชวนเธอให้ไปร้องเพลง ที่ร้านอาหารซึ่งเธอก็ดีใจมากจึงรับปากตก ลงไปร้องเพลงที่ร้านอาหารชื่อว่าสวนศรี เมืองที่จังหวัดอุดรธานีซึ่งเป็นครั้งแรก

ในชีวิตที่ได้ร้องเพลงตามร้านอาหารตอน นั้นจะได้เงินเดือนเดือนละ 800 เริ่มงาน 18:00 นเลิกงาน 3:00 น 4:00 นก็ยังได้ ค่าดริ้งค่ามาลัยซึ่งหารกับทางร้านคนละ ครึ่งมาหลายสิบบาทเธอก็จะได้ 5 บาทในร้าน มีนักร้องประมาณ 10 กว่าคนแต่เธอจะได้ มาลัยมากกว่านักร้องคนอื่นๆเพราะแขกที่มา

นั่งอยู่ในร้านจะชอบเธอมากเพราะเธอเป็นคน แรกและคนเดียวในร้านที่ทั้งร้องทั้งเต้น ทั้งลำทั้งฟ้อนได้จนเป็นที่ถูกใจของเจ้า ของร้านและแขกที่มานั่งดื่มหลังจากร้อง เพลงที่ร้านนี้ได้ 2 เดือนเจ้าของร้านก็ ขึ้นเงินเดือนให้เป็น 1,500 บาทจากนั้นก็ เพิ่มเป็นเดือนละ 3,000 ต่อเดือนช่วงที่

เธอเนื้อเพลงอยู่ที่ร้านนี่เองก็ได้มี เจ้าของร้านอาหารจากหลายจังหวะเช่นอุบล หนองคายร้อยเอ็ดและอีกหลายจังหวัดมากิน ต่อให้เธอไปร้องที่ร้านโดยเสนอเงินเดือน ให้มากกว่าการเดิมที่เธอร้องอยู่และเธอก็ ได้ปรึกษากับเจ้าของร้านซึ่งเจ้าของร้าน ก็ไม่ขัดข้องเธอจึงตัดสินใจไปร้องเพลงที่

ร้านอาหารที่จังหวัดหนองคายเธอใช้ชีวิต เป็นนักร้องร้านอาหารอยู่นานพอสมควรจน กระทั่งวันหนึ่งได้พบกับอาจารย์สุมทุมไผ่ ริมบึงครูเพลงชื่อดังที่ร้านอาหาร วาเลนไทน์จังหวัดขอนแก่นเมื่อปี 2524 ซึ่งอาจารย์ได้แอบมาดูเธอร้องเพลงอยู่ หลายครั้งนานนับเดือนจนมีโอกาสได้คุยกับ อาจารย์อาจารย์บอกว่าเธอเป็นคนมีแก้ว เสียงแปลกดีและเป็นคนมีความสามารถจึงชัก ชวนให้เธอไปเป็นนักร้องอะกันเสียงแต่ใน ตอนนั้นเธอยังไม่กล้าตอบตกลงเพราะในสมัย นั้นคนบ้านนอกทุกคนจะกลัวกรุงเทพมากกลัว จะโดนหลอกมาขายตัวเธอจึงบอกให้อาจารย์ไป พูดคุยกับคุณพ่อคุณแม่ที่บ้านละหานนา

อาจารย์ทั่วไปและคุณพ่อคุณแม่ก็ตอบตกลง ให้เธอมากแผ่นกับอาจารย์สูงทุมไผ่ริมบึง และอาจารย์ก็ได้แต่งเพลงให้เธอมาฝึกร้อง มี 2 ชุดคือชุดลำเพลินโต้ลมหนาวและชุดคิด ถึงทุ่งลุยลายเธอได้นำเพลงมาฝึกซ้อมที่ บ้านละหานนาเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่และญาติ พี่น้องทุกคนได้เห็นอาจารย์สูงทุมไผ่ริม

บึงจะให้เธอตื่นมาซ้อมเพลงตั้งแต่ตี 5 ทุกวันโดยอาจารย์จะสอนร้องต่างต่อปากและ ร้องพร้อมกันโดยอาจารย์จะเป็นคนเคาะ กระดานเป็นจังหวะให้แล้วก็จะให้เธอไปยืน ร้องอยู่ไกลๆให้ตัวเองร้องจนสุดเสียงจาก นั้นก็เลื่อนระยะทางไปเรื่อยๆจนกว่า อาจารย์จะไม่ได้ยินเสียงอาจารย์บอกว่า

เป็นการฝึกขยายและเพิ่มพลังปอดและอาจารย์ ก็สอนเทคนิคการขยับลูกคอโดยการกลั้นใจแต่ เบ่งออกมาพร้อมกับเอาลิ้นดันเพดานปากเธอ ต้องฝึกอย่างนี้ทุกวันเป็นเวลา 3 เดือน จากนั้นค่อยมาอัดแผ่นเสียงชุดแรกเป็นแนว หมอลำชื่อชุดว่าลำเพลินโต้ลมหนาวกับ บริษัทเสียงสยามชุดแรกนี้ก็ได้รับความ

นิยมพอสมควรและต่อมาประมาณ 5 6 เดือนใน ช่วงต้นปี 2525 ก็มีงานเพลงลูกทุ่งชุดแรก คือชุดคิดถึงทุ่งลุยลายเพลงชุดนี้ประสบ ความสำเร็จเป็นอย่างมากทำให้แฟนเพลงได้ รู้จักเย็นจิตรพรเทวีหลังเนื้อเพลงติด กลายเป็นเพลงฮิตทั่วบ้านทั่วเมืองประมาณ 3-4 เดือนเธอก็ได้กลายเป็นหัวหน้าคน

ดนตรีภายใต้ชื่อวงเย็นจิตรพรเทวีและก็ได้ เดินสายพบปากกาแฟนเพลงทั่วประเทศเธอคาด ไม่ถึงว่าจะได้รับการตอบรับจากแฟนเพลงดี มากในทุกๆที่ที่ไปทำการแสดงและพร้อมๆกับ ที่เธอทเวนเดินสายไปทั่วประเทศนี้ก็ได้มี ผลงานเพลงออกมาหลายชุดเช่นลูกชายลุงอิน

ที่ทองใจเย็นๆดำมหาเสน่ห์ I love you ไม่ๆจริงๆเป็นต้นซึ่งทุกชุดที่เอ่ยมานี้ ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นและได้รับการ ตอบรับจากแฟนเพลงเป็นอย่างมากรวมเวลาที่ เธอเป็นหัวหน้าวงอยู่ประมาณ 10 กว่าปี หลังจากนั้นก็ได้พักวงไปเพราะขณะนั้นเป็น ช่วงที่เพลงสตริงกำลังได้รับความนิยมใน หมู่คนฟังเป็นอย่างมากทำให้วงการลูกทุ่ง

ซบเซาลงจนนะระยะเวลาต่อมาประมาณปี 2529 ถึงปี 2531 เธอก็ได้เปลี่ยนแนวจากเพลงลูก ทุ่งกลับมาร้องเพลงหมอลำอีกครั้งเริ่ม ตั้งแต่ชุดสาวดำรำพันสาววันบ่กล้าเสี่ยง ผัวสามสไตล์ทำให้เธอกลับมาได้รับความนิยม อีกครั้งหนึ่งเขาเรียกว่างานเพลงทั้ง 3 ชุดนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากเช่น

เดียวกับงานเพลงลูกทุ่งที่ผ่านมาแต่ในตอน นี้เธอไม่ได้ทำวงดนตรีของตัวเองมีแต่การ รับเชิญและก็รับจ้างร้องเพลงเป็นงานๆไป ต่อมาเธอจะหยุดพักการร้องเพลงระยะหนึ่ง เพื่อทำกิจการร้านอาหารที่ขอนแก่นคือเย็น กินคาเฟ่เมื่อประมาณปี 2536 แต่เปิดอยู่ ได้ประมาณ 2 ปีก็ต้องหยุดเพราะไม่ค่อยมี

เวลามาดูแลบริหารช่วงนั้นถึงแม้เธอจะไม่ มีงานชุดใหม่ออกมาสู่สายตาแฟนเพลงแต่งงาน แสดงงานร้องเพลงของเธอก็มีไม่ได้ขาดเพราะ เพลงจะได้รับความนิยมทำให้เธอต้องปิด กิจการเย็นกิจคาเฟ่และหันกลับมาเอาจริง เอาจังกับการร้องเพลงและได้มาทำเพลงชุด ใหม่กับใครเท่าไลน์ไดมอนด์อีกครั้งคือชุด สาวทุ่งลุยลายเป็นแนวหมอลำซึ่งเพลงชุดนี้ เธอตั้งใจร้องและทุ่มเทพลังเสียงเต็มที่ เพื่อหวังที่จะได้รับการตอบรับอีกครั้ง หนึ่งและเพลงนี้ก็ได้รับความนิยมอยู่ระยะ นึงหลังจากตัดเพลงชุดสาวทุ่งรีลายได้ไม่ นานเส้นเลือดฝอยในลำคอของเธอก็แตกซึ่ง อาการตอนแรกเธอก็ไม่อย่ากลัวว่าเส้นเลือด

แตกเพราะจะรู้สึกแค่เจ็บคอแต่ก็นึกว่า เป็นการเจ็บคอธรรมดาก็เลยไม่ได้ใส่ใจและ ยังคงร้องเพลงอยู่ตามปกติจนต่อมามีอาการ เจ็บมากจนเธอรู้สึกว่ามันไม่ธรรมดาแล้ว นอกจากเจ็บคอยังมีอาการหายใจไม่คล่องเธอ เลยไปหาหมอและหมอก็บอกว่าเป็นเส้นเลือด

ฝอยในลำคอแตกมองก็เลยถามว่าทำไมถึงปล่อย เอาไว้นานขณะนี้จากนั้นก็ได้รักษาโดยหมอ ใช้สลิงเจาะดูดเอาเลือดที่ค้างอยู่ในลำคอ ออกเพราะเสื้อในลำคอแตกจนเลือดแข็งตัวและ หลังจากนั้นคุณหมอก็นัดให้ไปตรวจทุกๆ เดือนเดือนละครั้งเป็นเวลา 3 เดือนจนกว่า จะแน่ใจว่าหายแล้วคุณหมอก็สั่งให้เธอหยุด ร้องเพลงทำให้งานแสดงของเธอลดน้อยลงนั่น

ก็หมายความว่ารายได้ของเธอลดน้อยลงทำให้ ชีวิตลำบากขึ้นเพราะก่อนหน้านี้เธอจะเป็น คนรับภาระค่าใช้จ่ายและเลี้ยงดูอย่างพี่ น้องทุกคนภาระทุกอย่างจะตกอยู่ที่เธอ เมื่อเธอไม่มีงานเงินก็เริ่มหมดจนเธอต้อง เอาบ้านที่ดินที่นาไปจำนองกับธนาคารจน เป็นหนี้เป็นสินอยู่หลายปีแม้แต่ละส่วน

ตัว BMW คะซึ่งเป็นรถที่เธอรักมากที่สุดในชีวิตก็ จำต้องขายไปด้วยความจำใจแต่ช่วงอย่างดี หลังจากที่คอเธอหายเป็นปกติหมอก็บอกว่า สามารถร้องเพลงได้เธอจึงได้ทำเพลงชุดใหม่ กับบริษัทเท่าไลน์ไดมอนด์นั่นคือชุดสาวพร ขอนแก่นใจลอยคอยแฟนออกมาในปีเดียวกันและ ในปีต่อมาก็ออกอีก 2 ชุดคือชุดสูทตอนแก่

สวรรค์ละเอียดแต่ก็ไม่ได้รับความนิยมมาก นักจากนั้นในปีถัดมาเธอก็ทำเพลงชุดลาย คราม 1999 เป็นการนำเพลงเก่ามาทำนนตรี ใหม่เช่นเพลงผัวสามสไตล์สาววันบ่กล้า เสี่ยงสาวดำรำพันพอเพียงกำลังจะได้รับ ความนิยมเธอเกิดเป็นโรควูบขึ้นมาโดยที่ เธอไม่รู้ตัวเท่าที่จำได้หลังจากที่กลับ มาจากร้องเพลงเพราะกำลังจะไขกุญแจเข้า ห้องเธอก็จะวูบไปเลยจนมียามาเห็นเพราะโดย ปกติยามจะออกตรวจตามบริเวณคอนโดตลอดจนเธอ รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่อยู่โรงพยาบาลแล้ว หลังจากเธอรู้สึกตัวหมอก็จะให้เธอกลับ บ้านแต่อาการของเธอก็ไม่ดีขึ้นยังรู้สึก ไม่มีเรี่ยวไม่มีแรงแม้แต่จะขยับแขนขยับ

ตัวก็ยังไม่ไหวเธอมีความฉันอยากจะไปวัด ยังจะไปหาพระแล้วก็มีคนแนะนำให้เธอไปที่ วัดลาดสนุนจนได้พบกับหลวงพ่อเสาร์หลวงพ่อ บอกกับเธอว่าเธอโดนพระราหูสวยอายุมา 4 5 ปีแล้วและหลวงพ่อก็แนะนำให้ไปอาบน้ำมนต์ และถือศิลกินเจเธอจึงทำตามที่หลวงพ่อบอก แล้วก็รู้สึกว่าทุกอย่างมันกำลังเริ่มดี เธอเริ่มแข็งแรงขึ้นและก็กลับมาร้องเพลง อีกครั้งได้ทำงานเพลงชุดใหม่กับค่าย ท็อปไลน์ไดมอนด์อีกครั้งชื่อชุดว่ารอรัก จากกทมแล้วอยู่มาวันหนึ่งก็มีคนมาตามจีบ เธอเธอไม่สนใจและปฏิเสธแต่เขาคนนั้นก็ยัง ตามตื๊อไม่เลิกพอเห็นเธอไม่สนใจจริงๆชาย คนนั้นเริ่มมีการบังคับขู่เข็ญและทำร้าย

ร่างกายเธอมาตลอดและเธอก็ต้องคอยหลบหน้า คอยนี้เขาตลอดต้องระเหเร่ร่อนแต่เขาก็คอย ตามจนเจอทุกทีจนเธอไม่เป็นอันร้องเพลง เพราะกลัวเขาจะไปทำร้ายเธอเขียนเล่าว่าใน ช่วงนั้นไม่มีใครช่วยเธอได้เลยเพราะคนเรา ไปลาดวงตัวอะไรก็แยกพึ่งใครก็ไม่ได้จน กระทั่งวันหนึ่งเธอก็โดนชายคนนั้นยิงจน

เป็นข่าวหน้าหนึ่งถ้าหนังสือพิมพ์เธอต้อง น่ารักสาวตัวอยู่โรงพยาบาลหลายสัปดาห์และ เขาก็กูเธอไม่ให้แจ้งความกับตำรวจในช่วง ที่เธออยู่โรงพยาบาลเค้าก็ยังตามไป รังควานจนเธอต้องหนีออกจากโรงพยาบาลและ ตัดสินใจไปทำพิธีสะเดาะเคราะห์ที่วัด พิมพาวาสบางปะกงฉะเชิงเทราทั้งที่แผลของ

เธอยังไม่หายดีหลังจากทำพิธีสะเดาะ เคราะห์เสร็จเธอก็กลับมารักษาตัวจนแผลหาย เป็นปกติและก็เริ่มร้องเพลงได้บ้างแต่ชาย คนนี้ก็ยังตามไปรังควานและทำร้ายร่างกาย เธออยู่ตลอดในที่สุดเธอจึงตัดสินใจเข้าหา ผู้ใหญ่ในวงการคนหนึ่งและเล่าเหตุการณ์

ให้ฟังทุกอย่างโดยบอกกับผู้มีเป็นคนนั้น ว่าเธอไม่ได้รักไม่ได้ชอบเขาเลยและไม่ ต้องการให้เขาตามรังควานหรือยุ่งเกี่ยว กับชีวิตเธออีกผู้ใหญ่ท่านนี้เลยเรียกชาย คนนั้นมาคุยและต่อว่าต่อหน้าจิตรพรเทวี ผู้ใหญ่คนนั้นบอกว่าเขาไม่รักมึงแล้วมึง ยังตามรังควานเขาทำไมเขาเป็นผู้หญิงที่ ต้องทำมาหากินด้วยลำแข้งรำคาญมึงเป็นผู้

ชายทำไมมึงยังไปรังแกตามไปรังควานเขาอีก นับจากวันนี้ไปถ้ามึงยังตามไปทำความเข้า อีกก็จะจับเมืองไปนั่งยางจำไว้หลังจากวัน นั้นเขาก็ไม่กล้ามายุ่งกับเธออีกเลยบ่เคย มีอิสระเต็มที่ที่จะได้ร้องเพลงจนได้รับ การติดต่อจากเอกชัยศรีวิชัยให้ไปร่วมเดิน สายกระบวนตรีเอกชัย 5 เดือนทำให้เธอที่มี โอกาสพบปะแฟนเพลงทางภาคใต้บุญตรีของ เอกชัยมีการแสดงคืนเย็นจิตรพรเทวีจึงได้ รับการต้อนรับจากแฟนเพลงชาวใต้หนาแน่นถึง ขนาดเธอข้าไม่ถึงว่าทางใต้จะให้การต้อน รับเย็นจิตรพรเทวีมากมายขณะนี้ทำให้เธอมี กำลังใจที่จะต่อสู้กับชีวิตครั้งและเป็น แรงบันดาลใจให้เธอได้ทำเพลงใต้ขึ้นมาเป็น

เพลงใต้ Style Engine ซึ่งเป็นเรื่องใต้ ล้วนๆเพื่อเป็นการตอบแทนแฟนเพลงชาวภาคใต้ ที่ให้การต้อนรับและชื่นชอบเย็นจิตร พรเทวีชีวิตบนทางสายเพลงของเย็นจิตรพร เทวีจึงดำเนินเรื่อยมาได้อย่างสวยงามในปี 2558 เธอได้รับรางวัลนักร้องลูกทุ่งยอด เยี่ยมจากรางวัล siamdara Star Awards จากเพลงลบได้แต่เบอร์ซึ่งเป็นบางวันที่ เธอภูมิใจมากยังมีเรื่องราวเกร็ด เล็กเกร็ดน้อยสีสันในชีวิตของคุณแม่เย็น จิตรพรเทวีอีกมากมายแต่เพื่อไม่ให้คลิป

cr: https://www.youtube.com/watch?v=6zrrCpYE86w