ช็อกวงการเพลง 😭 2 นักร้องดัง สิ้นใจติดต่อกัน…อีกแล้ว

ช็อกวงการเพลงอีกครั้ง 2 นักร้องดังสิ้น ใจติดต่อ กันเมื่อวันที่ 2 สิงหาคมปี 2567 ที่ผ่าน มาแฟนเพลงสตริงในอดีตต้องตกอยู่ในห้วง ความเศร้าเมื่อต้นฉบับเพลงว้าเวออดฟาโร ตอยยีบีได้เสียชีวิตจากไปเมื่อเวลา 11:10 นของวันศุกร์ที่ 2 สิงหาคมปี 257 ด้วย อาการไทรอยด์เป็นพิษขั้นรุนแรงโดยมีการ

ละหมาดยาสะที่มัสยิดอีกมตุนมุมินินซอย เจริญสุขตำบลบางบัวทองอำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรีในวันเสาร์ที่ 3 สิงหาคมปี 2567 เวลา 99:00 นและในช่วงเวลาไล่เลี่ กันนี้ที่มีพิธีทางศาสนาที่จัดให้ฟาโร ตอยยีบีผู้ล่วงลับก็มีข่าวเศร้าของวงการ เพลงลูกทุ่งเมื่อราชาเพลงพูตเพลินพรหมแดน

ศิลปินแห่งชาติได้เสียชีวิตลงอย่างสงบใน ตอนเช้าของวันที่ 3 สิงหาคมปี 2567 ที่ บ้านพักย่านจรัญสนิทวงศ์เสียชีวิตจากไปใน วัย 85 ปีดยโดยในช่วงเวลาที่เพลินพรมแดน จากไปนั้นก็เป็นช่วงเวลาที่คาบเกี่ยวกับ การทำพิธีทางศาสนาให้กับฟาโรตอยยีบีเราขอ

แสดงความคารวะและอาลัยนักร้องดังผู้ล่วง ลับทั้ง 2 ท่านมาณโอกาสนี้ด้วยครับอ๊อด ฟาโรตอยยีบีนักดนตรีนักร้องนักแต่งเพลง อดีตสมาชิกวงออเคสตร้าและวงเพื่อนใน ตำแหน่งกีตาร์ซึ่งแฟนเพลงจดจำเขาได้ดีใน บทบาทนักร้องนำในเพลงว้าเวของวงเพื่อน ซึ่งต่อมาเพลงว้าเหว่นี้กุ้งตวงสิเรียน จินดาได้นำมาขับร้องอีกทีว้า

เวเไปกลับหัวใจ ช้ำเหงา กระหน่ำค่ำลงนอนนับดาวออดฟารูตอยยีบีเกิด เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมปี 2492 โดยเขา เกิดในครอบครัวนักดนตรีมีพี่ชายชื่อฟารุค ตอยยีบีและมานูเอลตอยยีบีปัจจุบันใช้ชื่อ ในการแสดงว่ามานูเอลเพสลีย์ออดฟาโร ตอยยีบีเริ่มหัดเล่นกีตารด้วยตัวเองตอน

อายุ 13 ขวบโดยมีพี่ชายคอยให้คำชี้แนะบอก แนวทางเขาชื่นชอบเพลงของวง The Beatles เป็นพิเศษหลังจากเล่นกีตาร์ได้ดีระดับ หนึ่งออดฟาโรก็เริ่มตั้งวงดนตรีสมัครเล่น กับเพื่อนๆโดยใช้ชื่อวงว่าวงศรีโรจน์ตาม ชื่อค่ายมวยศรีโรจน์ซึ่งให้การสนับสนุน หลังจากวงเล่นดนตรีชำนาญขึ้นก็เริ่มเปิด

รับงานแสดงตามไนท์คลับแถบถนนเพชรบุรีตัด ใหม่ในยุคทศวรรษ 1970 จากนั้นนั้นได้เข้า ร่วมกับวง 4 +1 กับพี่ชายทั้ง 2 คนโดย เล่นประจำที่ไนท์คลับไทยเเว่นถนนเพชรบุรี ตัดใหม่ในช่วงสงครามเวียดนามออดฟาโร ตอยยีบีได้ออกตระเวนเล่นดนตรีตามค่ายทหาร ในจังหวัดอุบลราชธานีอุดรธานีนครราชสีมา

จากนั้นก็ได้เข้าร่วมกับวงเพินเล่นดนตรี ในแถบพัทยาและกรุงเทพมหานครต่อมาเขาได้ ร่วมงานกับหรั่งชัดชัยสุขาวดีอ้อพาสกรหุว นิตและนุธรรมนูญยีสาโดยใช้ชื่อวงว่าวง ออร์เคสตร้าเล่นประจำอยู่ที่ออสการคลับ โรงแรมชวลิตซึ่งปัจจุบันก็คือโรงแรม แอมบาสเดอร์และโรงแรมโนราโรงแรมสุคนธา

อำเภอหาดใหญ่จังหวัดสงขลาจากนั้นได้เข้า ร่วมกับวงิีเล่นประจำที่ไ Club The dis ถนนราชดำเนินในปี 2527 ฟาโรห์ได้เข้าร่วม เป็นสมาชิกวงเพื่อนในสังกัดนิธิทัศน์ โปรโมชั่นมีผลงานเพลงไทยที่ได้รับความ นิยมคือเพลงว้าเวทโดยฟาโรได้ร้องนำในเพลง นี้ด้วยโอ้เราประคองรักไม่

เป็นกฎเกณฑ์การเอาชสูญเปล่า วเวอยากเรไประบาย สีเขีย เชีผมชีวีเพื่อ ใครต่อมาวงเพื่อนมีการเปลี่ยนแปลงสมาชิก ฟารูจึงได้แยกออกมาตั้งวงน้ำใจจร่วมกับ โชคดีพรรคผู้ดนทวีโภคและดลเดชบุญนาคใน สังกัดแกมมี่เตอมหลังจากนั้นฟาโรตอยยีบี ก็มีอัลบั้มเดี่ยวเพลงไทยของตัวเองในชุด

นอกจากมีผลงานเพลงแล้วฟาโร ตอยยีบียังทำธุรกิจส่วนตัวเกี่ยวกับค้า ขายที่ดินและหินอ่อนรวมไปถึงมีกิจการดูแล รถยนต์ครบวงจรฟาโรตอยยีบีมีผลงานการแสดง ดนตรีอย่างสม่ำเสมอในแนวเพลงสากลยุค 1960 – 1970 โดยเฉพาะเพลงของ The Beatles โดยในช่วงหลังหลังเขาใช้ชีวิตอยู่ที่ จังหวัดเชียงใหม่บุตรสาวคนเล็กของฟาโร ตอยยีบีคือเมลดตอยยีบีหรือเมเมนักร้อง เยาวชนผู้เคยได้รับตำแหน่งชนะเลิศบารบี้ Singing Contest Season 4 รุ่นอายุ

5-8 ขวบในปี 2553 และยังเป็นผู้เข้า ประกวด The voice kid thailand season 1 บ่งบอกได้ดีว่าฟาโรตอยยีบีมีผู้สืบทอด สายเลือดศิลปินอย่างเด่นชัดแล้วฟาโร ตอยยีบีเกิดเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมปี 2492 และเสียชีวิตลงในวันที่ 2 สิงหาคมปี 2567 เขาจากไปในวัย 75 ปีแต่จะยังอยู่ในความ

ทรงจำของแฟนเพลงตลอดไปราชาเพลงพูดเพลิน พรหมแดนศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง ดนตรีไทยลูกทุ่งประจำปี 2555 จากไปในวัย 85 ปีปิดตำนานราชาเพลงพูดหนึ่งเดียวใน เมืองไทยซึ่งนอกจากเพลงพูดที่เป็น เอกลักษณ์ของท่านเช่นเพลงอาตี๋สักดิ์ มังกรข่าวสดๆคิดลึกคึกิดที่โด่งดังแล้ว

เพลินพรมแดนยังฝากเพลงลูกทุ่งเพราะๆไว้ มากมายเช่นเพลงชมทุ่งอย่าลืมเมืองไทยเป็น ต้นเพลินพรหมแดนมีชื่อจริงว่าสมส่วนพรหม สว่างเกิดเมื่อวันที่ 12 มิถุนายนปี 2482 ที่อำเภออรัญญประเทศจังหวัดปราจีนบุรี ปัจจุบันคือจังหวัดสระแก้วเป็นบุตรของคุณ พ่อปลื้มคุณแม่ตุ่นพรหมสว่างมีพี่น้อง ด้วยกัน 8 คนเป็นชาย 6 คนเป็นหญิง 2 คน ครอบครัวมีอาชีพทำนาสมส่วนพรหมสว่างจบการ ศึกษาชั้นป 4 จากโรงเรียนเทศบาลอำเภอ อรัญญประเทศหลังจากเรียนจบชั้นป 4 แล้ว เขาเดินทางเข้ามากรุงเทพฯและบวชเป็น สามเณรอยู่ที่วัดเศวตฉัตรแถวๆแถวสำเรฝั่ง ทนหลังจากสอบได้นักทำโทแล้วก็สึกออกมา

ช่วยพ่อแม่ทำนาอยู่ที่บ้านเกิดสมส่วนพรหม สว่างเป็นคนที่ชอบร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก ยิ่งเติบไวขึ้นหัวใจของเขาก็ยิ่งฝักใฝ่ ทางนี้มากขึ้นเมื่ออายุประมาณ 20 ปีเศษๆ เขาจึงได้สมัครประกวดร้องเพลงตามเวทีต่าง ๆเพื่อทำตามความฝันและในปี 2503 เขาก็ได้ ทราบข่าวว่าครูจำรัสวิภาวัสหัวหน้าดนตรี ชุมนุมศิลปินประกาศรับสมัครนักร้องทาง สถานีวิทยุยานเกราะจึงตัดสินใจไปสมัครกับ เขาด้วยปรากฏว่าในการประกวดครั้งนั้นไม่ มีนักร้องคนใดชนะเลิศแต่ครูจำรัสได้คัด เอานักร้องที่ร้องดีที่สุดและสมส่วนพรหม สว่างก็คือนักร้องที่ได้รับการคัดเลือก ให้เข้าประจำวงดนตรีชุมนุมศิลปินในครั้ง

นั้นในปี 2504 เขามีโอกาสได้ร้องเพลง บันทึกเสียงครั้งแรกในชีวิตคือเพลงทุ่ง ร้างนางลืมผลงานการแต่งของนิยมมารยาทและ ตั้งชื่อนักร้องว่าเพลินพรมแดนโดยการ บันทึกเสียงครั้งนี้เป็นการบันทึกประกบ กับเพลงนครนายกเฝันที่ขับร้องโดยจำรัสสุว คลน้อยแต่เพลงทุ่งร้างนางลืมยังไม่ถือว่า ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรหลังจากนั้นครู จำรัสวิภาวัสก็ได้ให้เขาบันทึกเสียงอีก ครั้งหนึ่งในเพลงวาสนายาจุกซึ่งเพลงนี้ นับว่ามีกระแสกระเตื้องขึ้นมาจากเดิมมาก พอสมควรในปี 2507 เพลินพรมแดนได้รวบรวม เงินเพื่อลงทุนบันทึกแผ่นเสียงด้วยตัวเอง จากเพลงที่เขาแต่งขึ้นมาเองคือเพลงบุญพี่

ที่น้องรักโดยเพลงนี้เขาแต่งไว้เป็นเพลง แรกในชีวิตแล้วนำมาขัดเกลาเนื้อหาใหม่ ซึ่งช่วงนั้นเพลงรักพี่ที่ใจของนิตยาเปิด ปัญญากำลังโด่งดังเขาจึงอาศัยกระแสนี้นำ เนื้อหาของเพลงรักพี่ที่ใจมาสอดแทรกไว้ใน เพลงบุญพี่ที่น้องรักด้วยพอบันทึกเสียง เสร็จก็นำแผ่นไปฝากทิ้งไว้ให้เพื่อนฟูง ช่วยกันเปิดแล้วเขาก็เดินทางกลับบ้าน ปราจีนบุรีปรากฏว่าไม่กี่เดือนต่อมาเพลง บุญพี่ที่น้องรักมีกระแสโด่งดังเกินความ คาดหมาย าได้ยินเสียงเพงว่ารักที่ใจนตั้งแต่นี้ ต่อไปตไม่ขอลืมพครูจำรัสวิวัฒจึงเรียกตัว เขากลับมาด่วนเพื่อลุยงานเพลงต่อหลังจาก นั้นจึงมีเพลงจดหมายบรรยายรักคนไม่มีดาว

และอีกหลายเพลงที่ทยอยตามมาจากความดังของ เพลงบุญพี่ที่น้องรักทำให้ครูจำรัสยกวง ดนตรีชุมนุมศิลปินให้เพลินพรหมแดนดูแล หลังจากนั้นวงดนตรีชุมนุมศิลปินภายใต้การ นำของเพลินพรมแดนก็ได้เริ่มประเดิมงานแรก ที่สทรท่าช้างนักร้องในวงที่มีชื่อเสียง

ในยุคแรกหลายคนก็เช่นสุริยาแสวงธรรมผู้ ขับร้องเพลงรักเธอเฒ่าช้างสมศักดิ์ศรีบ ช้างเจ้าของเสียงเพลงหัวใจสาวนิตยาเปิด ปัญญาเพลงรักพี่ที่ใจสุบินทิพวัฒน์เพลง ขลุ่ยเรียกสาวและอีกหลายๆคนหลังจากนั้น เพลินพรมแดนก็นำวงตระเวนแสดงดนตรีจนเป็น ที่ยอมรับของแฟนเพลงและเริ่มออกเดินสาย ต่างจังหวัดในปี 2510 เพลินพรมแดนพาชาว

คณะเดินสายไปแสดงที่ภาคใต้ปรากฏว่าแฟน เพลงชาวภาคใต้ต้อนรับเขาอย่างเหนียวแน่น อุ่นหนาฝาคั่งทำให้เพลินพรหมแดนมีรถบัส เป็นของตัวเองเป็นครั้งแรกนับเป็นวงที่ 2 ที่มีรถบัสเป็นของตัวเองต่อจากวงดนตรี สุรพลสมบัติเจริญเพลินพรมแดนประสบความ สำเร็จสูงสุดในด้านเสียงเพลงในปี 2511 หลังจากที่สุรพลสมบัติเจริญเสียชีวิตงาน ด้านการแสดงก็วิ่งเข้าหาเขาจนล้นมือถือ ได้ว่าระหว่างปี 2511 ถึงปี 2515 เพลิน พรมแดนประสบความสำเร็จสูงสุดทั้งในด้าน งานแสดงดนตรีงานบันทึกแผ่นเสียงและงาน แสดงภาพยนตร์โดยเฉพาะในปี 2511 เขามีผล งานเพลงเด็ดๆออกมาหลายเพลงเช่นเพลงหนุ่ม

โสดฝันหวานหัวใจหล่นบนฝั่งโค้งขายตึกซื้อ นาให้พี่รุยเสียก่อนกลัวตายและในปี 2000 111 นี้วงดนตรีของเขายังชนะเลิศการ ประกวดที่เขื่อนชัยนาทได้รับรางวัลถ้วย ทองคำแท้หนัก 10 บาทนอกจากนี้ยังมีเพลง รักติดลมวอนพระระอินทร์ดังป้าบล่อนจอน ซึ่งสร้างชื่อเสียงให้เพลินพรมแดนไม่น้อย

ในปี 2513 เพลินพรหมแดนได้มีโอกาสแสดง พยนตร์เรื่องแรกในเรื่องฝนใต้เพลงที่ สร้างชื่อให้เขาในปีนี้ก็คือเพลงสมัคร ด่วนสร้างมนุษย์ในปี 2514 เพลินพรวมแดน โด่งดังอีกครั้งจากภาพยนตร์เรื่องฝนเหนือ ของบางกอกภาพยนตร์โดยได้แสดงร่วมกับวัย พจน์เพชรสุพรรณยุพินแพรเด็กชายปรีชาเกิด

กำแพงและในปี 2515 เขาได้แสดงภาพยนตร์อีก ครั้งในเรื่องพระระเริงชนของฉลองภักดี วิจิตรแห่งบางกอกภาพยนตร์ในปี 2522 เพลิน พรหมแดนได้เป็นพระเอกหนังเต็มตัวใน ภาพยนตร์เรื่องแคนไอเพลินในปี 2516 เพลิน พรมแดนได้เริ่มร้องเพลงพูดเป็นจริงเป็น จังครั้งแรกในเพลงข่าวสดๆและตามมาอีกหลาย เพลงซึ่งเป็นผลงานการแต่งของครูสงเคราะห์ สมตพาพงศ์และนับตั้งแต่ปี 2516 เป็นต้นมา จนถึงปี 2521 เพลงพูดของพระเพลินพรมแดนก็ ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากโดยเพลินพรม แดนเคยเผยว่าตอนแรกเราร้องเพลงไปเราก็เลย คิดว่าไหนลองเพลงพูดบ้างสิเพราะบางเพลงก็ แหวกตลาดแต่พอเราร้องผลงานออกไปปรากฏว่า

โด่งดังถูกใจคนฟังคนถามหาแผ่นเสียงกัน เพราะเพลงพูดจะมีเสน่ห์ของมันพอเริ่มดัง เลยมีนักแต่งเพลงเข้ามาร่วมหลังๆพูดยาว ขึ้นจนหลายคนก็เรียกเราว่านักร้อง 2 ลีลา เพราะเราร้องก็ได้พูดก็ได้เลยกลายเป็นจุด ที่ทำให้คนสนใจอีกด้วยวงดนตรีเพลินพรหม แดนรับใช้แฟนเพลงมาจนถึงปี 2 125 ซึ่ง

เป็นปีที่รัฐบาลจัดงานฉลองกรุงเทพฯครบ 200 ปีพอดีเขาก็ตัดสินใจยุบวงเมื่อวันที่ 27 เมษายนปี 2525 ตลอดเวลาเกือบ 20 ปีเพลิน พรมแดนสร้างผลงานเพลงอมตะไว้มากมายและ สร้างลูกศิษย์ลูกหาให้เกิดในวงการไม่น้อย ทั้งนักร้องและนักตลกนักแสดงตลกที่มีชื่อ เสียงในปัจจุบันหลายคนล้วนเคยผ่านการแสดง

ตลกหน้าเวทีของวงเพลินพรมแดนไม่ว่าจะเป็น แดนบุรีรัมย์เทพโพธิ์งามน้อยโพธิงาม จุ๋มจิ๋มเข็มเล็กเพชรดาราฉายเด่นดอกประดู เป็นต้นหลังจากเลิกวงแล้วเพลินพรหมแดนก็ ยังรับใช้แฟนเพลงด้วยการรับเชิญไปร้องใน งานต่างๆอยู่สม่ำเสมอในช่วงต่อมาของชีวิต เพลินพรมแดนได้ทำงานเพลงให้กับพระ พุทธศาสนาด้วยโดยร้องแหล่ประวัติของครูบา อาจารย์ต่างๆหลายองค์เช่นประวัติหลวงปู่ มั่นภูริทัตโตประวัติหลวงตามหาบัวเป็นต้น งานสำคัญที่สุดที่เขาอุทิศให้กับศาสนาก็ คืองานแหล่ประวัติขององค์ สัมมาสัมพุทธเจ้าให้กับวัดเกตมณี ศรีวรารามจังหวัดสมุทรสาครโดยเพลินพรหม

แดนแต่งคำร้องทำนองเองเล่าประวัติตั้งแต่ ประสูติตรัสรู้และปรินิพพานอย่างละเอียด จากผลงานความสามารถทั้งด้านการแต่งเพลง ขับร้องเพลงเป็นหัวหน้าวงดนตรีงานด้าน สังคมต่างๆรวมไปถึงงานด้านพระพุทธศาสนา ที่เพลินพรหมแดนอุทิศชีวิตทำมาตลอดอย่าง

ต่อเนื่องทำให้กระทรวงวัฒนธรรมได้เล็ง เห็นถึงความสามารถจึงประกาศยกย่องให้ เพลินพรหมแดนเป็นศิลปินแห่งชาติประจำปี 2555 สาขาศิลปะการแสดงดนตรีไทยลูกทุ่ง นอกจากนี้เพลินพรมแดนยังได้รับรางวัลต่าง ๆมากมายเช่นได้รับโล่เชิดชูเกียรตินัก ร้องตัวอย่างลูกทุ่งยอดเยี่ยมในปี 2532 จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา

สยามบรมราชกุมารีในงานถึงศตวรรษเพลงลูก ทุ่งไทยครั้งแรกจากเพลงอย่าลืมเมืองไทยปี 2534 ได้รับรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระ เทพราชราชสุดา สยามบรมราชกุมารีในงานกึ่งศตวรรษเพลงลูก ทุ่งไทยครั้งที่ 2 ในเพลงชมทุ่งเป็นต้น แม้วันนี้ครูเพลินพรหมแดนศิลปินแห่งชาติ ได้ล่วงลับไปยงไม่มีวันหวนกลับแต่คุณงาม ความดีและผลงานของท่านยังเป็นอมตะในใจแฟน เพลงตลอดการขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก คอลัม Star Retro Wikipedia ขอบคุณภาพ และเพลงประกอบที่มีผู้ลงไว้ขอบคุณมากครับ