อีกหนึ่งประเด็นร้อนที่น่าติดตามหลังจากที่ ด.ต.ยุทธพล ศรีสมพงษ์ หรือ “จอนนี่ มือปราบ” และภรรยา โดยจับในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 3 ซึ่งทั้งสองเป็นหนึ่งในผู้ต้องหา 5 ราย ในคดีที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างและประกอบกิจการรีสอร์ตโดยมิชอบด้วยกฎหมาย

เกี่ยวกับเรื่องนี้ทางด้าน ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ได้สรุปให้เข้าใจง่ายๆ ในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ” #ศึกแห่งศักดิ์ศรีนายตำรวจหลังฉากงัดตำรวจสอบสวนกลาง?
ทำไม “จอนนี่ มือปราบ” ถึงถูกศาลออกหมายจับ?
กรณี “จอนนี่ มือปราบ” หรือ ด.ต. ยุทธพล ศรีสมพงษ์ ที่กำลังเป็นข่าวใหญ่ในขณะนี้ มีเบื้องหลังเกี่ยวข้องกับ ที่ดินในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2503 ตามมติคณะรัฐมนตรี เพื่อรองรับและช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกเวนคืนที่ดินจากการสร้างเขื่อน

โครงสร้างสิทธิที่ดินในนิคมสร้างตนเอง
1. ผู้มีสิทธิเดิม
คือผู้ที่ย้ายเข้ามาตามโครงการรัฐ และได้รับสิทธิจากการเป็น “สมาชิกนิคม”
2. เงื่อนไขการโอนขายที่ดิน
สมาชิกนิคมที่ต้องการขายที่ดิน จะทำได้ก็ต่อเมื่อ
ได้รับเอกสารสิทธิเป็น โฉนดที่ดิน หรือ หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก)
และพ้นกำหนดเวลาห้ามโอนตามกฎหมาย
(อ้างอิงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10738/2555)
ดังนั้น ชาวบ้านที่ “เพียงเข้ามาทำกินชั่วคราว” ก่อนจะได้รับสิทธิสมาชิก จะไม่สามารถโอนขายหรือปลูกสร้างได้ตามกฎหมาย

. ปมปัญหาการซื้อขายของ “จอนนี่”

จากข้อเท็จจริงที่ปรากฏ มีเหตุให้น่าเชื่อว่า คนขายที่ดินให้จอนนี่ ไม่ใช่ผู้ครอบครองสิทธิในที่ดินอย่างถูกต้อง แต่เป็นเพียงผู้ที่เข้ามาทำกินชั่วคราวและยังไม่มีสิทธิครอบครองในทางกฎหมาย การซื้อขายเช่นนี้จึงเข้าลักษณะเป็น โมฆะ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 150 (อ้างคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5819/2552)

. จากคดีบุกรุก… สู่คดีอาญาหนัก

หากเป็นเพียงการบุกรุกที่ดินนิคมหรือที่ดินรัฐตามปกติ อัตราโทษในทางอาญาไม่สูงมากนัก และในทางแพ่งก็เพียงรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไป
แต่ในกรณีนี้ มีประเด็นหนักกว่านั้น คือ
มีการเกี่ยวข้องกับ เจ้าพนักงานรัฐ
มีเรื่อง เอกสารทางราชการ เข้ามาเกี่ยวข้อง (รายละเอียดคดีว่าเอกสารอะไรต้องฟังจากสอบสวนกลางแต่คาดการณ์ว่าเป็นเอกสารเกี่ยวกับใบอนุญาตของอบต.ในพื้นที่ที่ออกให้โดยไม่มีอำนาจและเมื่อจอห์นนี่เอาไปใช้หรือไปขอให้เขาออกใบอนุญาตหรือเอกสารใดใดให้ที่มีสิทธิ์ตามกฎหมายโดยไม่มีสิทธิ์จึงนำมาสู่ข้อหาสนับสนุน หรือเป็นตัวการร่วมในความผิดเกี่ยวกับการประพฤติมิชอบของเจ้าพนักงานซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ของ ปปป.)

ข้อหาจึงขยับไปสู่ความผิดเกี่ยวกับเจ้าพนักงานและความผิดเกี่ยวกับเอกสารราชการ ซึ่งมีอัตราโทษสูงกว่า 3 ปี จึงเข้าเงื่อนไขให้ศาลออกหมายจับได้ตาม มาตรา 66(1) ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

. สรุป

“จอนนี่ มือปราบ” จึงไม่ได้ถูกออกหมายจับเพียงเพราะบุกรุกที่ดิน แต่เป็นเพราะการกระทำเกี่ยวข้องกับการครอบครองที่ดินรัฐโดยมิชอบ การทำเอกสารที่เกี่ยวพันกับเจ้าพนักงาน และมีน้ำหนักตามพยานหลักฐานว่าเข้าข่ายความผิดอาญาร้ายแรง อัตราโทษสูงกว่า 3 ปี ทำให้ศาลอนุญาตให้ออกหมายจับได้”