คำทำนาย เหตุการณ์ใหญ่ จะเกิดขึ้น เมื่อรัชกาลที่10 ขึ้นครองราชย์ แม่นจนขนลุก หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
สวัสดีครับท่านผู้ฟังที่เคารพรักทุกๆท่าน ครับของดีอีสานบ่ายขอโชคครับวันนี้จะพา ท่านผู้ฟังมารับฟังในเรื่องของคำทำนาย รัชกาลที่ 10 หลวงพ่อฤาษีลิงดำฉบับเต็ม ท่านผู้ฟังครับ คำทำนายพระราชพรหมญาณวีระถาวโรหรือที่รู้ จักกันโดยทั่วไปว่าหลวงพ่อฤาษีลิงดำฉบับ
เต็มจากวัดจันทารามท่าซุงเรืองอนาคตของ ประเทศไทย เมื่อวันพุธที่ 23 ธันวาคม ปีพุทธศักราช 2518 เรื่องมีอยู่ว่า ท่านพลตรียุทธศิลป์เกสรสุขผู้บัญชาการกอง ทัพคนที่ 3 ยศและตำแหน่งสมัยนั้นได้
นิมนต์หลวงพ่อพระมหาวีระถาวโรหรือหลวงพ่อ ฤาษีลิงดำพร้อมด้วยพระเถระรวม 6 รูปเพื่อ ไปบำรุงขวัญของทหารในเขตกองทัพภาคที่ 2 [เพลง] โดยนำผ้ายันต์มหาพิชัยสงครามและก็เหรียญ เอกราชไปแจกให้แก่ทหารตามฐานปฏิบัติการ
ชายแดน ระหว่างวันที่ 20-28 ธันวาคม ปีพ.ศ 2518 และในวันสุดท้ายก็คือวันที่ 23 ธันวาคม ปีพุทธศักราช 2518 ได้ทำการแจกของให้แก่ทหารค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา พุทธสถานค่ายสุรนารีจังหวัด
นครราชสีมา คำทำนายมูลเหตุที่มาแจกวัตถุมงคล เจริญสุขแก่บรรดาทหารของชาติทุกท่าน อาตมาได้มาทำการแจกจ่ายผ้ายันต์และก็ เหรียญแก่ทหารทางภาคเหนือมาแล้ว 3 ครั้ง ต่อมาได้ทราบข่าวจากข้าหลวงของสมเด็จพระ บรมราชินีนาถว่า สมเด็จพระบรมราชินีนาถทรงปรารภว่า
หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านไม่ห่วงทหารภาคอีสาน หรืออย่างไรจึงไม่มาแจกของแก่ทหารทางภาค อีสานบ้าง ความจริงอาตมาห่วงทหารทางภาคอีสานเช่น เดียวกับทหารทางภาคเหนือ เมื่อท่านผู้บัญชาการกองพลที่ 3 รับจาก อำนวยความสะดวกในการเดินทางมาแจกจ่าย ยังแนะนำสิ่งของมาแจกให้ครั้งนี้ ขั้นแรก
อนุศาสนาอาจารย์ได้อาราธนาให้แสดงธรรม ต่อมาท่านผู้บังคับบัญชากองพลได้อาราธนา ให้เล่าเรื่องของที่นำมาแจกจ่ายว่าทรงคุณ ค่าอย่างไรบ้าง ผู้ที่ได้รับแจกไปจะได้เกิดความศรัทธา ความเชื่อมั่นเพื่อสนองเจตนา
อนุศาสนาจารย์แต่ก็ท่านผู้บังคับบัญชากอง พลที่ 3 ได้อาราธนาจึงขอพูดเรื่องธรรมะก่อนสัก เล็กน้อยจากนั้นจึงจะพูดถึงเรื่องสิ่งที่ จะนำมาแจกจ่ายคำทำนาย เราทุกคนอยากมีความดีด้วยกันทั้งนั้น บางคนนึกว่าตนเองอยากมั่งมีอยากมีอยากมี ยศมีอำนาจแต่ความจริงแล้วก็คืออยากมีดี นั่นเอง แต่เราจะมียศสูงแต่ถ้าใครมาว่าเราเป็นคน ไม่ดีเราก็ไม่ชอบ
เพราะฉะนั้นใครอยากอะไรก็ตามเธอ แต่สุดท้ายของความอยากนั้นก็คือความดี นั่นเอง รักษาศีล 5 ให้ได้ความดีนั้นมีกฏมีเกณฑ์ ที่เราจะต้องทำเป็นเบื้องต้น 5 ประการก็ คือ ประการที่ 1 เราไม่อยากให้ใครมาฆ่ารังแก ข่มเหงเรา ก็อย่าไปฆ่าไปรังแกไปข่มเหงเขา
ประการที่ 2 เราไม่อยากให้ใครมารักของของเราเราก็อย่า ไปรักของของเขา ประการที่ 3 เราไม่อยากให้ใครมาผิดลูกผิด เมียเราเราก็อย่าไปผิดลูกผิดเมียเขา ประการที่ 4 เราไม่อยากให้ใครมาโกหกเรา เราก็อย่าไปโกหกเขารักการที่ 5 เราไม่ อยากเป็นคนบ้าก็อย่าไปเดิมสุราเมรัยเพราะ
ถ้าเราดื่มสุรามากๆเราจะกลายเป็นคนบ้าทำ ทำนาย [เพลง] เจริญพรหมวิหาร 4 ไว้ความดีที่สูงขึ้นไป อีกที่เราควรประพฤติเป็นหลักในการดำรง ชีวิตเพื่อความสุขความเจริญแก่ตนเองก็คือ พรหมวิหารมี 4 ประการก็คือ 1 เมตตา ความรักเราต้องรักตัวเองรักครอบครัวรัก ญาติพี่น้องหมู่คณะตลอดถึงรักประเทศชาติ 2 กรุณา
ผู้ที่มีคุณธรรมในข้อที่ 4 นี้จำเป็นจะ ต้องมีคุณธรรมข้ออื่นสนับสนุนเพื่อเรา ต้องเว้นจากอคติก็คือ 1 ความลำเอียงเพราะ ความรัก 2 ความลำเอียงเพราะความชัง 3 ความลำเอียงเพราะความหลง 4 ความลำเอียงเพราะความกลัว
ทหารแปลว่าคนหนุ่มทหารทุกคนต้องเป็นคนนม แม้จะแก่อายุมากแล้วก็ต้องทำตัวเป็นคน หนุ่มเพราะคำว่าทหารแปลว่าคนหนุ่ม คนหนุ่มนั้นจะต้องเป็นคนที่เข้มแข็งว่อง ไวอาหารปึกเปิ่นมีไหวพริบปฏิภาณดีมีความ สามารถกี่รักให้กันไม่ทอดทิ้งกันเมื่อมี
ภัย ตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาทและก็ข้อสำคัญ ที่สุดนั้นต้องยอมตายเพื่อประเทศชาติบ้าน เมือง เมื่อถึงคราวจำเป็นนี่พูดอย่างทหารเพราะ อาตมาเคยเป็นทหารเรือมาแล้วย่อมรู้จัก ชีวิตวิญญาณของทหารดี ทหารไปรบถือว่าทำเพื่อบ้านเมืองทหารที่ไป ราชการสงคราม
เพื่อป้องกันอริยราชศัตรูนั้น หากไปฆ่าข้าศึกศัตรูก็ไม่ถือว่าเป็นความ ชั่วแต่เป็นการทำดีต่างหากเพราะเราทำหน้า ที่ปกป้องสิ่งที่ดีงามเอาไว้ความดีนั้น คือความอยู่รอดของชาติศาสนาพระ มหากษัตริย์และก็สงบสุขของปวงชนในพื้น แผ่นดินไทยทุกคน [เพลง] ความสงบสุขนั้นเป็นยอดของความดีทั้งหมด การที่เรายอมเสียสละเลือดเนื้อและชีวิต
ของเราเพื่อรักษาความดีทั้งหลายดังกล่าว มาแล้วไว้จึงได้ชื่อว่าเราทุกคนได้ทำความ ดี สมศักดิ์ศรีของทหารไทยจึงไม่ต้องกลัวว่า จะเป็นบาปเป็นกรรม เราทุกคนจะไม่แพ้จะไม่ต้องตกเป็นทาสของ ใครๆดังที่พวกเราพากันวิตกกังวลอยู่ในขณะ นี้แม้แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ 9 ก็ทรงผลิตวิตกและก็ทรงมีความ ห่วงใยประเทศชาติบ้านเมืองเป็นอย่างยิ่ง ท่านจะเห็นได้ว่าเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ปีพุทธศักราช 2518 พระองค์พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จไปยังวัดของอาตมาวงเล็บวัดท่าซุง และได้ตรัสถามความเป็นไปของบ้านเมืองใน อนาคตว่าจะเป็นอย่างไร
อนาคตของชาติอาตมาได้ถวายพระพรพระองค์ว่า ประเทศชาติบ้านเมืองของเราจะไม่ตกเป็นทาส ของใคร อาตมาขอถวายชีวิตเป็นประกันเกี่ยวกับ เรื่องนี้นับตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2520 เป็นต้นไป ประเทศไทยจะเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆความเยือก เย็นจะเริ่มปรากฏ ความมั่นคงสมบูรณ์จะมีขึ้นแก่ประชาชาติ และประชาชน แต่จะยังไม่ปรากฏชัดนักแต่เราจะมองเห็น ได้ชัดๆก็ต้องปีพุทธศักราช 2524 เปรียบเสมือนอรุณได้ขึ้นแล้วและจะเริ่ม ฉายแสงให้เห็นคุณให้เห็นความมืดหมดไป ที่อาตมาก็ยืนยันต่อพระองค์เช่นนั้นก็ เพราะเหตุผลหลายประการคือคำทำนายของพระ พุทธโฆษาจารย์ในประการแรกอาตมาได้พบและ
ได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งเป็นสมุดอ้อยซึ่ง พระอรหันต์ในอดีตนามว่าพระพุทธโฆษาจารย์ ลำไยเขียนไว้ ทำนายชะตาบ้านเมืองก่อนที่กรุงศรีอยุธยา จะแตกเสียอิสรภาพแก่พม่าก่อนที่กรุงเทพ ยังไม่ปรากฏโดยท่านได้เขียนทำนายไว้ว่า กรุงศรีอยุธยาจะต้องถูกข้าสึกดีแต่
จะเสียอิสรภาพไม่นานนักจะมีคนดีของ กรุงศรีอยุธยามากู้ชาติแต่เมื่อกู้ชาติ ได้แล้วจะพากันไปตั้งเมืองหลวงอยู่ใหม่ เหตุการณ์ต่างๆของกรุงศรีอยุธยาก็ได้เป็น จริงตามคำทำนายทุกอย่าง ทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้า 10 รัชกาล ในสมุดข่อยเล่มเดียวกันนี้พระ พุทธโกศาจารย์ได้กล่าวคำทำนายเหตุการณ์ ที่จะเกิดขึ้นแก่กรุงเทพฯ
รัชกาลที่ 5 ทำนายว่าจำแขนขาดรัชกาลที่ 6 ทำนายว่า ราชาโจรรัชกาลที่ 7 ทำนายว่านั่งทนทุกข์ รัชกาลที่ 8 ทำนายว่ายุคทมิฬรัชกาลที่ 9 ทำนายว่าถิ่นกาขาว รัชกาลที่ 10 ทำนายว่าชาวศิวิไล ความแม่นยำของคำทำนายเมื่อพิจารณาถึงคำ ทำนายแต่เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นแต่ละ รัชกาลก็จะเห็นได้ชัดว่าคำทำนายนั้นถูก
ต้องเพียงใดรัชกาลที่ 1 ผ่านพระเจ้า ตากสินขึ้นครองราชสมบัติรัชกาลที่ 2 ท่าน ว่างจากการศึกสงครามก็หันมาทำนุบำรุงพระ พุทธศาสนาให้พระสงฆ์ค้นคว้าพระธรรมวินัย รวบรวมเป็นการใหญ่ รัชกาลที่ 3 ท่านมีหัวคิดริเริ่มหาเงินมา สร้างสรรค์บ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรือง
ปรากฏมาจนถึงทุกวันนี้ ราชการที่ 4 ท่านสนิทธรรมก็พระราชาองค์ นี้ทรงผนวชถึง 21 พรรษามีความคล่องตัวใน พระธรรมวินัยทรงไว้ซึ่งพระไตรปิฎกอย่าง แตกฉานแล้วก็ยังมีความสนิทสนมกับสมเด็จ พระพุฒาจารย์โตอย่างยิ่งเป็นคู่บารมีกัน รัชกาลที่ 5 แจ่มแขนขาดเราเห็นได้ชัดว่า เพราะเราต้องเสียดินแดนไปหลายครั้งหลายหน
โดยพระองค์ทรงยอมเสียแขนข้างดีกว่าเสีย ตัวทั้งหมด คือยอมเสียพื้นแผ่นดินบางส่วนเพื่อรักษา เอกราชของชาติไป รัชกาลที่ 6 เป็นโจร ก็ทรงใช้จ่ายเงินในท้องพระคลังจนหมดสิ้น แต่อาตมาเห็นว่าพระองค์ทรงเป็นนัก
ชาตินิยมมีพระปรีชาสามารถปลุกใจประชาชน ให้รักชาติบ้านเมืองเช่นมีเพลงบทหนึ่งส่ง พระราชนิพนธ์ไว้ว่าใครมาเป็นเจ้าเข้าครอง คงต้องบังคับขับไสเคี่ยวเข็ญเย็นค่ำข้าม ไปตามวิสัยเชิงเส้นผู้เป็นนายทรงเป็นนัก ประชาธิปไตยจึงได้ทำทุกอย่างให้บุคคลอื่น เห็นว่าพระองค์ไม่ทรงถือพระองค์เช่นแสดง มหรสพเช่นโหนกับข้าราชบริพารยิ่งกว่านั้น พระองค์ยังสามารถทำให้ประเทศไทยเป็นที่
ปรากฏแก่ชาวโลกโดยส่งทหารไปช่วยสงครามโลก ครั้งที่ 1 จึงจำเป็นต้องใช้เงินมาแม้จะ ใช้เงินมากแต่ประโยชน์ก็เกิดแก่ประเทศ ชาติอย่างหนัก รัชกาลที่ 7 นั่งทนทุกข์พระองค์เสวย ราชสมบัติอยู่ในเกณฑ์ตกอับพอดีเงินในท้อง พระคลังก็หมดมาตั้งแต่รัชกาลก่อน พระองค์จึงทรงประทับอยู่บนกองทุกข์ต้องดู แลข้าราชการเป็นจำนวนมากเท่านั้นยังไม่พอ ต่อมาพระองค์ต้องจำพระทัยสละราชสมบัติไป นั่งทนทุกข์อยู่ต่างแดนจนสิ้นพระชนม์ รัชกาลที่ 8 ยุคทมิฬบ้านเมืองอยู่ในภาวะ สงครามโลกครั้งที่ 2 ประชาชนตกอยู่ในสภาพ บ้านแต่อดอยากยากแค้นแสนสาหัสพระ มหากษัตริย์ก็ถูกครอบองค์พระชนม์จนสวรรค์
นคร รัชกาลที่ 9 คำทำนายว่าถิ่นกาขาวเราก็เห็นแล้วว่า ฝรั่งมาอยู่เต็มบ้านเต็มเมืองล้วนแต่คน ผิวขาวทั้งนั้นสำหรับรัชกาลต่อไปก็คือ รัชกาลที่ 10 ทำนายว่าชาววิไลหมายความว่า บ้านเมืองของเราได้ผ่านยุคเห็นมาแล้วจะ ได้ประสบความเจริญรุ่งเรืองกันเสียทีเรา
จะมั่งคั่งสมบูรณ์เหมือนนานาอารยประเทศ ที่เจริญแล้วทั้งหลาย ราชวงศ์จักรีจะมีเพียง 10 รัชกาลเท่านั้น หรือ ปัญหาที่น่าคิดต่อไปก็คือ ทำไมพระพุทธโฆษาจารย์จึงทำนายเหตุการณ์ บ้านเมืองไว้เพียง 10 รัชกาลเท่านั้น องค์เทพมหานครจะมีพระมหากษัตริย์เพียง 10 พระองค์เท่านั้นหรือเป็นเรื่องที่อาตมาสน
ใจเป็นพิเศษจึงได้สอบถามเรื่องนี้กับหลวง พ่อพระอาจารย์ต่างๆซึ่งจิตของท่านเป็น สมาธิเข้าถึงขั้นอภิญญาสามารถที่จะรู้ จริงในเรื่องอดีตอนาคตและปัจจุบันซึ่งก็ ยังมีอยู่หลายองค์ในขณะนี้ทุกๆรูปที่ อาตมาสอบถามท่านต่างก็ยืนยันตรงกันว่า
พระมหากษัตริย์จะยังคงมีอยู่คู่กับชาติ ไทยตลอดไปอีกนานมีใช่เพียงแค่ 10 พระองค์ เท่านั้น แต่ที่พยากรณ์ไว้เพียงแค่นั้นก็เพราะว่า เริ่มตั้งแต่รัชกาลที่ 10 เป็นต้นไปบ้าน เมืองจะมีความมั่งคั่งสมบูรณ์ร่มเย็น ผาสุขประชาชนในชาติจะร่ำรวยประเทศไทยจะ เป็นประเทศมหาอำนาจประเทศหนึ่งซึ่งจะมี แต่ความเจริญตลอดไปไม่ล้มลุกคลุกคลานดัง
ที่กล่าวมาจึงไม่จำเป็นจะต้องพยากรณ์ต่อ ไปอีก ประการที่ 2 ที่ยืนยันว่าประเทศไทยจะไม่ตกเป็นทาสของ ใครๆนั้นก็คือ พระผู้ทำนายเหตุการณ์ของโลกพระพุทธะทำนาย นี้มีปรากฏในสมุดข่อยของพระพุทธโฆษาจารย์ เช่นเดียวกันซึ่งมีข้อความปรากฏโดยสังเขป ดังนี้ อันนันทะดูก่อนอานนท์โรคต่อไปจะเต็มไป ด้วยความเร่าร้อนก่อนกึ่งพุทธกาล 15 ปี ประมาณพุทธศักราช 2485 จะมีผลเหล็กตกจากอากาศจะมีไฟลุกจากอาการ เหล็กกล้าจะพูดจากน้ำมาทำลายมนุษย์มนุษย์ และสมณะชีพ ความเร่าร้อนก่อนกึ่งพุทธกาลนั้นยังมี ความเร่าร้อนน้อยกว่าความเร่าร้อนหลัง อึ่งพุทธกาล
หลังกึ่งพุทธกาลจะมีความร้ายยิ่งไปกว่า นั้นยักษ์เห็นที่ถูกสาปจะลุกขึ้นมา อาละวาด สมณะชีพราหมณ์จะล้มตายจากน้องพระศาสนา ทั้งหลายจะเข้าฟันกันเองจะตายกันไปคนละ ครึ่งจึงจะหยุดยั้งเลิกรบกันแต่ทว่า ประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนาอย่างแน่น แค้นจะมีภัยเช่นนี้เหมือนกันแต่ไม่มากนัก
ความแม่นยำของพุทธธรรมนายจากพระพุทธเจ้า คำทำนายนี้เราก็เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นความ จริงทุกอย่าง ก่อนพุทธกาลได้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ลูกระเบิดต่างๆซึ่งเป็นเหล็กเป็นไฟหลั่ง ไหลลงมาจากอาการ พิฆาตมาโนชหลังกึ่งพุทธกาลได้เกิดสงคราม ลัทธิคือพวกยักษ์นอกศาสนาเพิ่งจะเลิกรา
cr: https://www.youtube.com/watch?v=Pe4kABvLUmo