ศรคีรี ศรีประจวบ จบชีวิตเพราะใบสั่งฆ่าหรือว่าอุบัติเหตุ

อะไรกันแน่ที่พลาดชีวิตศรคีรีศรีประจวบ [เพลง] หากเอ่ยถึงนักร้องลูกทุ่งชื่อดังระดับ ตำนานของวงการลูกทุ่งไทยเจ้าของน้ำเสียง หวานหยดย้อยมีลูกคอละเอียดผิวสรรค์เป็น ธรรมชาติได้รับการขนานนามว่าเป็นตำนานลูก คอ 7 ชั้นบางท่านสรุปเอกลักษณ์ประจำตัว

เขาไว้ว่าน้ำเสียงหวานลูกเปื้อนอ้อนลูกคศ หลายชั้นเป็นอะไรเราเป็นต้นแบบหรือเป็น ครูให้นักร้องรุ่นตัวต่อมาได้เจริญรอยตาม และหลายคนนำเพลงของเขามาขับร้องใหม่จน โด่งดังประสบความสำเร็จกันหลายคนเช่น สายัณห์สัญญาอ๊อดโอภาสทศพรเป็นต้นนักร้อง อันนี้จะเป็นใครไปไม่ได้เขาคือศรคีรีศรี

ประจวบผู้สร้างงานเพลงไว้ไม่มากนักแค่ราว ๆ 34 เพลงแล้วก็ลาจากโลกไปก่อนวัยอันควร ในวัยเพียง 36 ปีเท่านั้นแต่บทเพลงใน จำนวนนี้หลายเพลงยังเป็นที่ประทับใจตรา ตรึงมีมนต์ขลังและแฟนเพลงหลายรุ่นยังฝั่ง ยังชายขับกล่อมชีวิตกันอยู่เนืองๆเช่น เพลงคิดถึงพี่ไหมที่ร้องว่าคิดถึงพี่

หน่อยนะกลอยใจพี่ห่างกันอย่างนี้น้องคิด ถึงพี่บ้างไหมหรือเพลงบุพเพสันนิวาสที่ ร้องว่าเนื้อคู่กันแล้วก็คงไม่แคล้วกันไป ได้เพลงขี้เหร่ก็รักที่ร้องว่าขี้เหร่ เพียงไรขี้เหร่เพียงไหนฉันก็จะรักโดย เฉพาะเลงน้ำท่วมที่ร้องว่าน้ำท่วมน้องว่า ดีกว่าฝนแล้งเป็นต้องเปิดและได้ยินทุก

ครั้งเมื่อเกิดอุทกภัยหรือน้ำท่วมขึ้นใน ประเทศยังมีเพลงอื่นๆที่เกือบทุกเพลงติด หูผู้ฟังมีจุดถึงปัจจุบันและนักร้องรุ่น หลังรุ่นแล้วรุ่นเล่าหยิบมาบันทึกเสียง ใหม่อยู่เป็นระยะเช่นหนาวลมที่เรณูบนรัก แม่กลองตะวันรอนที่หนองหานรักแล้งเดือน ห้าลานรักลั่นทมพอหรือยังวาสนาพี่น้อยแม่ ค้าตาคมดอกรักบานแล้วหนุ่มนาบ้ารักทุ่ง รักเสียงขลุ่ยเรียกนางอยากรู้ใจเธอและฝน ตกฟ้าร้องเป็นต้นแต่ละเพลงยังคงความ คลาสสิคอมตะและต้นฉบับก็ยังคงความไพเราะ จับจิตจับใจแม้ศรคีรีศรีประจวบจะเสีย ชีวิตไปแล้วหลายสิบปีก็ทำไม่เพียงเสียง ร้องในบทเพลงอมตะซึ่งทนทานต่อการเวลาของ

นักร้องผู้ได้รับฉายาว่าราชาเพลงหวานผู้ นี้เท่านั้นที่อยู่ในความทรงจำของแฟนเพลง ความตายลักษณะการเสียชีวิตของเขายังคง เป็นปริศนาค้างคาใจหลายคนมาจนทุกวันนี้มี คนไม่น้อยที่ไม่ปักใจเชื่อตามรายงานข่าว ที่ว่าศรคีรีตายเพราะประสบอุบัติเหตุทาง รถยนต์ใช่อยู่ว่าเขาเสียชีวิตคาที่เพราะ

ถ้ามีรถบรรทุกซุงบรรทุกไม้ที่วิ่งมาด้วย ความเร็วสูงแล้วคล้ายเสียหลักพุ่งไปทับ ขยี้รถเก๋งที่นักร้องดังนั่งอยู่แต่ก็มี ความเป็นไปได้ว่าอุบัติเหตุครั้งนั้นไม่ ได้อุบัติขึ้นตามธรรมชาติหากแต่เป็นการจง ใจสร้างสถานการณ์จัดฉากให้ดูเป็น อุบัติเหตุบางคนถึงกับเชื่อว่าเป็นใบสั่ง

ฆ่าจากเหมืองลึกลับเขาเหตุที่สนับสนุน ความเชื่อนี้ก็มีหลายประการแต่ก่อนที่จะ ลงลึกถึงบ้านปลายชีวิตของนักร้องระดับ ตำนานเรามาไล่เรียงย้อนทวนเส้นทางชีวิต ของเขาตั้งแต่เริ่มต้นจนต้องพบกับจุดจบ เพื่อให้นึกภาพและเห็นรายละเอียดชัดเจน มากยิ่งขึ้นกันก่อนนะครับศรคีรีศรีประจวบ

ใครเล่าถึงประวัติของตัวเองไว้ว่าเขาเกิด วันที่ 4 มีนาคม 2487 ที่บ้านเลขที่ 13 บ้านหนองออตำบลบางกระบืออำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงครามมีชื่อจริงว่าสอนไทย ทองประสงค์ชื่อเล่นว่าน้อยพ่อชื่อมั่งแม่ ชื่อเชื้อเป็นลูกคนสุดท้องในพี่น้องทั้ง หมด 6 คนในส่วนวันเกิดของศรคีรีวัดมาเออ

กูนักเขียนชื่อดังผู้เขียนหนังสือคีตกวี ลูกทุ่งไพบูลย์บุตรขันระบุว่าปีเกิดของ ศรคีรีมี 2 หลักฐานคือหนังสือที่จะทำโดย คณะกรรมการจัดงานรำลึกคนดังเมือง สมุทรสงครามบอกว่าศรคีรีเกิดปี 2480 ตาย อีกหลักฐานบอกว่าเขาเกิดซีพีนาคม 2487 ดังกล่าวมาแล้วข้างต้นซึ่งสมัยก่อนศิลปิน

ดารามักประกาศวันเกิดอ่อนวัยกว่าความเป็น จริงเพราะต้องการให้ดูไม่แก่เป็นส่วน หนึ่งของการสร้างภาพลักษณ์วตรยาปูนเขียน เล่าไว้ว่าภูพานเพชรปฐมพรและชัยยงขำเดช อดีตลูกวงศรคีรีให้สัมภาษณ์ว่าเมื่อ ศรคีรีเข้าวงการนั้นพายุปาเข้าไปกว่า 30 ปีแล้วดังนี้ปีเกิด 2480 จึงน่าเชื่อกว่า

ปี 2487 เพราะเขาเข้าวงการในช่วงปี 2511 ถึง 2512 ซึ่งถ้าเกิดปี 2487 ก็จะมีอายุเพียง 24 25 ปีเท่านั้น ไม่ใช่ 30 ปีดังที่ลูกบุกสัมภาษณ์ไว้หลัง จาก 1 เด็กชายน้อยเรียนจบป ๔ จากโรงเรียน พรหมสวัสดิ์สาทรก็มาช่วยแม่ป่าตาลต้อง เปลี่ยนต้นตาลต้นมะพร้าวทุกวันยามทำงาน

เหนื่อยก็จะหยุดพักบนยอดตาลสีเลยเพื่อไม่ ให้เสียเวลาในระหว่างที่พักไหนอยู่บนนั้น ก็มักจะร้องเพลงไปด้วยจนหายเหนื่อยแล้ว ค่อยทำงานต่อเพลงที่ชอบล้อมก็มีเสือสำนึก บาปชายสามโบสถ์เพราะตอนนั้นเพลงของคำนวณ สัมบุณณานนท์กำลังดังมากช่วงนั้นใจเขาไฟ ฝันอยากเป็นนักร้องอย่างยิ่งยาววงดนตรี

ของครูพยงค์มุกดามาแสดงแถวบ้านก็จะไป สมัครและร้องเพลงให้ครูพยงค์ฟังแต่ก็ยัง ไม่เข้าหูเข้าตาครูสักเท่าไหร่ครูจะบอก ให้เขาไปหัดร้องมาใหม่พยายามอยู่ 2-3 ครั้งก็ไม่เป็นผลก็เลยพักความพยายามไว้ ก่อนจากนั้นพออายุ 20 ปีก็ได้บวช 1 พรรษา แล้วก็สึกพ่อแม่ได้พาเขาไปซื้อไร่ทำ สับปะรดที่อำเภอปราณบุรีจังหวัด ประจวบคีรีขันธ์เค้าก็เลยย้ายไปอยู่ที่ นั่นแต่มีบางแห่งราชประวัติเขาไว้ว่า เพราะรักครั้งแรกเป็นพิษในขณะที่บวชเมื่อ ว่าที่พ่อตาให้ลูกสาวแต่งงานกับชายอื่น เขาจึงเตลิดหนีออกจากบ้านมาอยู่กับพี่ชาย ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์แอบดูพี่ชาย

แบ่งไร่สับปะรดให้ทำไม่ว่าจะมาอยู่ที่ ประจวบคีรีขันธ์ด้วยเหตุใดก็ตามที่แน่ๆ ที่นี่เองศรคีรีได้เริ่มร้องเพลงอีกครั้ง โดยเข้าประกวดร้องเพลงตามงานวัดและคว้า รางวัลมากมายจนเพื่อนที่ชื่อพยงค์ วงศ์สัมพันธ์ชวนให้ร่วมวงที่เขาเช่า เครื่องดนตรีและจ้างครูดนตรีจากค่าย ธนะรัชต์มาสอนเพื่อสร้างความสนุกในหมู่

บ้านต่อมาเมื่อมีคนรู้จักมากขึ้นจึงตั้ง วงรวมดาววัยรุ่นที่ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น รวมดาวเมืองปราณรับงานแสดงทั่วไปตามบ้าน ที่ขายสับปะรดโดยไม่คิดเงินทองตอนนั้น ศรคีรีร้องเพลงแบบรำวงและใช้ชื่อว่าพนม น้อยเพราะชอบร้องเพลงของพนมนพพรและสัตว์

ท้ายวันไทยต่อมาได้นำวงมาแสดงในงานปีใหม่ ของจังหวัดคุณประหยัดสมานมิตรผู้ว่า ราชการได้ฟังเสียงและเห็นหน้าก็รักใคร่ ชอบพอจึงเปลี่ยนชื่อให้ใหม่เป็นศรคีรีศรี ประจวบหลังจากนั้นวิจิตรเลิกสิทธิ์วิทยา คนอยู่ใกล้บ้านกันให้การสนับสนุนเพื่อ สร้างบุญ RE ให้แข็งแรงขึ้นและพากันเข้า กรุงเทพฯเพื่อเช่าเวลารายการวิทยุเรากรอก จากจำรัสวิภาตะวัติพวกเขาวิ่งขึ้นร่อง กรุงเทพประจวบอยู่บ่อยๆและก็ได้พบกับ เพลินพนาวัลย์ซึ่งเป็นผู้ที่ศรคีรีขอให้ พาไปพบครูไพบูลย์บุตรขันที่บ้านเพื่อขอ เพลงมาร้องผู้ผ่านเพชรปฐมพรนักร้องที่ ใกล้ชิดกับศรคีรีในวงรวมดาววัยรุ่นเล่า

ว่าตอนไปขอเพลงตอนนั้นครูไพบูลย์มีนัก ร้องที่ดังมากชื่อรุ่งเพชรแหลมสิงห์เป็น ลูกศิษย์เองอยู่ศรคีรีก็ร้องเพลงแนวเดียว กันกับรุ่งเพชรครูไพบูลย์จึงไม่ให้เพลง เขาจึงต้องเทียวไปเทียวมาอยู่หลายครั้งจน ครูใจอ่อนประกอบกับตอนนั้นครูไพบูลย์มี เรื่องผิดใจกับรุ่งเพชรด้วยเพลงแรกที่ได้

มาคือน้ำท่วมตอนที่บันทึกเลงนี้น้ำเกือบ ท่วมประจวบคีรีขันธ์พอดีเสียหายอย่างมาก สับปะรดถูกน้ำท่วมทั้งหมดนอกจากนั้นครูก็ ยังให้เพลงมาอีก 3 เพลงคือบุพเพสันนิวาส แม่ค้าตาคมวาสนาพี่น้อยสำหรับการบันทึก เสียงครั้งแรกนั้นชุดแรกมีทั้งหมด 6 เร่ง คือน้ำท่วมบุพเพสันนิวาสวาสนาที่น้อยแม่

ค้าตาคมพอหรือยังและบางช้างตอนนี้เองที่ ศรคีรีเปลี่ยนภาพลักษณ์จากนักร้องมีวงมา เป็นนักร้องเพลงหวานโดยสมบูรณ์หลังจาก เพลงเริ่มเป็นที่รู้จักศรคีรีลงมาอยู่ กรุงเทพฯแต่ยังไม่นำวงดนตรีมาด้วยตอนนี้ งานแสดงถึงจะนัดวงเดินทางมาครั้งแรกใน กรุงเทพฯเขาเปิดการแสดงในงานศพของน้องชาย ครูไพบูลย์ที่วัดหลักสี่บางเขนจากนั้นวง ก็เริ่มรับงานในกรุงเทพและเดินสายทั่ว ประเทศซึ่งในการออกเดินสายใต้เป็นครั้ง แรกวงประสบความสำเร็จอย่างงดงามภายในเวลา ไม่กี่ปีวงดนตรีของศรคีรีก็ได้ชื่อว่า เป็นวงดนตรีที่มีค่าตัวแพงวงหนึ่งช่วง นั้นศรคีรีได้มีโอกาสแสดงหนังของครูรังสี

ทัศนพยัคฆ์เรื่องมนต์รักจากใจด้วยสมชาย ทองขาวหนึ่งในอดีตรูปวงและเป็นตัวจักร สำคัญยิ่งในการโอบอุ้มสนับสนุนจนศรคีรี โด่งดังเผยกับสยามดาราไว้ว่า soy กรี ศรีประจวบเป็นนักร้องที่มีความสามารถมี ความอดทนดีเยี่ยมเด่นดังขึ้นมาด้วยการยอม รับของนักฟังที่ชื่นชอบเร่งลูกทุ่งทุก

เพลงที่ร้องศรคีรีเรียกความสนใจจากนักฟัง ทั่วประเทศไม่ต้องจ้างเปิดเพราะหนักจาก รายการวิทยุทั่วทุกแห่งเปิดอาของเขาด้วย ความเต็มใจเพราะต่างก็ประทับใจในแก้ว เสียงที่อี้หวานสนิทเข้าซึ่งถึงอารมณ์ เพลงจากเสียงของนมพรุ่งนี้บุพเพสันนิวาส น้ำท่วมแม่ค้าตาคมที่เรย์ก็รักฝนตกฟ้า

ร้องวาสนาที่น้อยคือเพลงชุดแรกที่ครู ไพบูลย์แต่งให้ร้องด้วยความเมตตายิ่งพอ เพลงออกสู่นะฟังให้เท่าไหร่ศรคีรีก็ทำ มนต์เตรียมตัวเองให้เรียงกลางตามความดัง ของเพลงที่ร้องจนคนงงกันทั้งวงการเป็นวง ดนตรีวงเดียวก็ว่าได้ที่เข้าแสดงในโรง หนังจังหวัดภูเก็ตทั้งวันทั้งคืนมาต่อรอบ

เช้าของวันรุ่งขึ้นอีกรอบคนดูก็ยังเข้า ไม่หมดปอกเดินสายใต้เป็นครั้งแรกค่ำรวยคน แน่นขนัดยัดทะนานล้นหลามทุกแห่งกลับมาจาก ใต้ศรคีรีซื้อรถยนต์ด้วยเงินสดทันที 5 แสนบาทคิดดูห้าแสนเกือบสมัย 40-50 ปีก่อน เดี๋ยวนี้เป็นเงินเท่าไหร่ยุคนั้นเก็บค่า ดู 30 บาทซึ่งเดี๋ยวนี้ต้องร้อยหรือมาก

กว่าอย่างไรก็ดีในช่วงที่เขากำลังโด่งดัง สุดขีดนี่เองศรคีรีศรีประจวบก็ตกอยู่ใน ห้วงแห่งความขัดแย้งในเรื่องธุรกิจดนตรี เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2510 และวิจิตรเลิก ศรีวิทยาหนึ่งในหุ้นส่วนมนตรีของเขาแยก ตัวไปตั้งวงใหม่ชื่อว่าวงจิตรไพบูลย์และ หลังจากนี้ไม่นานก็เกิดข่าวใหญ่คือโคมพาด

หน้าหนึ่งต่อเนื่องกันหลายสัปดาห์คือข่าว นายวิจิตรถูกยิงเสียชีวิตพร้อมกับพวกรวม 4 ศพในจำนวนนี้มีนักร้องชายหญิงที่ข่าวระบุ ว่าตายอย่างทารุณและเป็นการเรียกยิงทิ้ง ทีละคนชื่อของศรคีรีจึงเข้าไปพัวพันคดี สังหารคนในวงการเดียวกันแต่เขาปฏิเสธว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใดในหนังสือ

พิมพ์ไทยรัฐช่วงวันที่ 10 สิงหาคม 2514 ระบุว่ากรณีนายวิจิตรเลือกสีวิทยาหัวหน้า วงดนตรีจิตรไพบูลย์กับนักร้องสาวในคณะถูก กลุ่มมือปืนลอบยิงตายที่ไร่ในปราณบุรีขณะ กลับจากซ้อมร้องเพลงและผลการสอบสวนปรากฏ ว่าศรคีรีศรีประจวบนักร้องลูกทุ่งพัวพัน อยู่ด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมในจอ เชื้อชาตินายสถานีรถเมล์บขสกับผู้อีก 3 คนในฐานะผู้ต้องสงสัยในการสังหารหมู่ ครั้งนี้ต่อมาเมื่อเวลา 10:45 วันที่ 17 สิงหาคมสองชื่อศรีประจวบได้รถเข้าพบพล ตำรวจตรีวิเชียรแสง 9 ผู้กำกับการภูธรเขต 7 และพันตำรวจเอกถนอมพรหมศิริรองผู้ บังคับการพากย์เขต 7 มีการสอบสวนภาคเช้า

10:45 นไปถึง 12:00 นและภาคบ่าย 13:00 ไปถึง 16:30 ซึ่งหลังจากให้ปากคำเสร็จ สิ้นศรคีรีเผยกับไทยรัฐว่าที่มาพบตำรวจ ครั้งนี้เพราะคนตำรวจตรีวิเชียรแสงแก้ว เรียกมาสอบสวนเกี่ยวกับคดีหยิ่งถึง 5 นัก ร้องตายหมู่ 4 และบาดเจ็บ 1 คนศรคีรียืน ยันว่าไม่ได้วิตกกังวลหรือสะดุ้งสะเทือน

แต่อย่างใดที่สงสัยว่าจะมีส่วนพัวพันใน การฆ่าหมูครั้งนี้เพราะตัวเองบริสุทธิ์ ไม่รู้ไม่เห็นเกี่ยวกับการตายของนาย วิจิตรหรือนักร้องแต่อย่างใดแม้จะเคยรู้ จักกับนายวิจิตรมาก่อนก็ตามพร้อมทั้งยืน ยันว่าเงินที่ใช้ในการตั้งวงดนตรีเป็นของ ตัวเองไม่ได้นำเงินของนายวิจิตรมาใช้แต่

อย่างใดในส่วนของพลตำรวจตรีวิเชียรแสง แก้วเผยกับผู้สื่อข่าวว่าครั้งนี้เป็นการ สอบสวนกว้างๆศรคีรีให้การด้วยสีหน้ายิ้ม แย้มแจ่มใสคำมีการผิดกับที่สอบสวนไว้ใน เรื่องการตั้งวงดนตรีศรคีรีให้การขานว่า ไม่ได้เอาทุนของนายวิจิตรมาตั้งวงดนตรี เงินทั้งหมดคิดตั้งวงดนตรีนั้นเป็นของ ศรคีรีทั้งสิ้นนายวิจิตรเพียงมาขอร่วมงาน ในฐานะลูกจ้างเท่านั้นในวันเกิดเหตุนั้น ศรคีรีแจ้งว่าแสดงดนตรีอยู่ที่อุตรดิตถ์ 2 รอบรูปขึ้นไปแสดงที่เพชรบูรณ์จึงได้ทราบ ว่านายวิจิตรเค้าพูดถูกยิงตายในตำรวจ กล่าวผ่านมาเพียงอีก 5 เดือนกลางดึกของ วันที่ 30 มกราคม 2515 ขณะศรคีรี

ศรีประจวบนักร้องดังกำลังนั่งรถกลับจาก แสดงดนตรีที่วัดพระธาตุอำเภอพิชัยจังหวัด อุตรดิตถ์มุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯเพื่อ เปิดทำการแสดงที่วัดภาษีเอกมัยในตอนค่ำ ของวันถัดไปเมื่อรถแล่นถึงช่วงบริเวณถนน สายเอเชียหลักกิโลเมตรที่ 448 ถึง 4 4 9 ตำบลอ่างทองอำเภอเมืองจังหวัดกำแพงเพชร

ซึ่งเป็นเวลาราวตีหนึ่งของวันที่ 31 มกราคมมีรถสูงวิ่งมาด้วยความเร็วสูงเมื่อ มาถึงสะพานก็ทำให้รถกระโดดเสียหลักขึ้นไป ทับรถของนักร้องลูกทุ่งชื่อดังดูดอาของ ศรคีรีถูกรถสูงทับพังยับยืนเขาเสียชีวิต คาที่พร้อมกับลูกโป่งอีกสองคนท่ามกลาง ความเจ้าของแฟนเพลงที่ทราบข่าวในเวลาต่อ

มาในส่วนของรูปวงหลังจากเสร็จการแสดงคืน นั้นก็ได้ออกเดินทางมายังจุดนัดพบที่ปั๊ม น้ำมันแห่งหนึ่งก่อนแต่หลังจากรออยู่นาน หัวหน้าวงยังเดินทางมาไม่ถึงสักทีจึงออก เดินทางต่อแต่เมื่อวิ่งไปสักระยะหนึ่งก็ มีรถพลเมืองดีวิ่งไล่ตามและเรียกให้จอด เพื่อแจ้งข่าวการประสบอุบัติเหตุของรถศร

คีรีซึ่งพลเมืองดีทราบหลังจากพบใบปลิวการ แสดงปีออกจากรถศรคีรีอยู่เกลื่อนบริเวณ ที่เกิดเหตุเมื่อรถบัสวงดนตรีวิ่งกลับไป ก็พบศพหัวหน้าวงตนเองดูผลเพลินเหตุการณ์ นี้ก็อาจเป็นเพียงอุบัติเหตุธรรมดาแต่ เมื่อพิจารณาว่านักร้องดังเคยมีข่าว พัวพันกับคดีสังหารหมู่ดังได้กล่าวมาแล้ว

ข้างต้นและยังมีเหตุการณ์น่าจะหมุนบาง อย่างเกิดขึ้นก่อนที่ศรคีรีจะพบจุดจกข้อ สงสัยว่านี่อาจไม่ใช่อุบัติเหตุทั่วไปก็ มีความเป็นไปได้เช่นกันกล่าวคือว่ากันว่า ก่อนเสียชีวิตมีการสอนคีรีเคยไปทำการแสดง ที่โรงหนังเอกมัยราม่ามีคนนำเอาพวงมาลัย ดอกไม้สดแต่ข้าด้วยผ้าดำแบบที่ทำไว้

สำหรับคนตายมอบให้เขาบนเวทีขณะร้องเพลง ศรคีรีรับไว้ด้วยความเกรงใจแต่เมื่อกลับ เข้าหลังเวทีศรคีรีสั่งเหลือการแสดงคืน นั้นทันทีทั้งที่เพิ่งร้องเพลงไป 5 เพลง เท่านั้น เรื่องนี้คล้ายเป็นลางบอกเหตุว่าจะเกิด เรื่องร้ายขึ้นตามมาหากโยงเหตุการณ์นี้ เข้ากับคดีสังหารหมู่ซึ่งอาจมีผู้ปักใจ

เชื่อว่าเขามีส่วนรู้เห็นและจองกฐินไว้ การชีวิตของเขาก็อาจเป็นการสร้าง สถานการณ์ให้ดูเป็นอุบัติเหตุก็เป็นได้ บางคนบอกว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะทำ สาบานของศรคีรีที่ว่าตนไม่เกี่ยวข้องกับ คดีฆ่าทั้งที่อาจพัวพันเลยส่งผลให้พบจุด จบแบบนี้อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านมาก็ ยังไม่มีใครพิสูจน์ได้ว่าความตายของ ศรคีรีศรีประจวบนั้นเป็นเพียงเรื่อง บังเอิญหรือเป็นเพราะคำสาบานหรือว่ามีมือ ลึกลับที่สามารถจัดฉากหมอเขาลาลับไปด้วย สิ่งที่ดูคล้ายเป็นอุบัติเหตุจริงๆเรื่อง นี้ยังคงเป็นปริศนาต่อไปและเมื่อมาถึงวัน นี้ก็คงไม่มีประโยชน์อันใดที่จะไปคิดคาด

เดาหรือค้นหาคำตอบเพียงรับรู้รับฟังเป็น เรื่องเล่าเป็นตำนานก็พอแล้วที่สำคัญคือ ได้เสพได้ลิ้มรสบทเพลงหวานซึ้งที่ยังคง อบอวลไพเราะจากเสียงร้องที่แสนหวานลูกขอ ระดับเทพของศรคีรีศรีประจวบใหญ่จะไม่ใช่ สิ่งประเสริฐเลือดรถที่คอเพลงและคนรุ่น

cr: https://www.youtube.com/watch?v=7p8nLPBeU2s