สุดอาลัย😭 อดีตนักร้องดัง นางสาวมะลิวัลย์ เสียชีวิตแล้ว
สุดอาลัยอดีตนักร้องดังจากพวกเราไปแล้ว ขอร่วมแสดงความเสียใจต่อการจากไปอย่าง เงียบๆของนางสาวมลิวัณเอ๋สมสกุลต้นฉบับ เพลงดังในอดีตเช่นเพลงคิดฮอดจังเลย ธรรมชาติเมืองสุย 2 ฝั่งโขงนับนิ้วคอย เป็นต้นคุณมายสายพินวังอภัยซึ่งเป็นลูก สาวของนางนางสาวมลิวัหรือแม่เอสมสกุลได้ เปิดเผยกับทีมงาน Channel ว่าอดีตนักร้อง ดังนางสาวมลิวัต้นฉบับเพลงดังคิดฮอดจัง เลยได้เสียชีวิตจากไปอย่างสงบเมื่อเวลา 18:30 น.
ของวันที่ 30 มิถุนายนปี 256 ที่บ้าน บุตรชายอำเภอเมืองจังหวัดหนองคายสิริอายุ 63 ปีจากไปด้วยสาเหตุโรคไตวายเรื้อรัง ซึ่งเป็นมาหลายปีแล้วทางครอบครัวได้จัด พิธีสวดพระอภิธรรมที่บ้านคุณสิทธิชัย วังกอภัยซึ่งเป็นบุตรชายและชาปนกิจศพที่ วัดเนินพระนาวาราม อำเภอเมืองจังหวัดหนองคายโดยมีพิธีสวดพระ อภิธรรมในวันที่ 1 กรกฎาคมปี 256 เวลา 18:00 น.
และในวันที่ 2 กรกฎาคมปี 256 มี สวดพระอภิธรรม 2 รอบคือรอบแรกเวลา 18:00 น.และรอบ 2 เวลา 19:00 น.มีพิธีประชุม เพลิงในวันพฤหัสสบดีที่ 3 กรกฎาคมปี 256 เวลา 15:00 น.ณรุวัดเนินพระนาวณารามอำเภอ เมืองจังหวัดหนองคายท่ามกลางความอาลัยของ ครอบครัวญาติมิตรและแฟนเพลงที่ทราบข่าว คุณมายบุตรสาวได้เล่าเพิ่มเติมว่าคุณแม่ เอ๋สมสกุลได้ป่วยเป็นโรคไตเรื้อรังมาหลาย ปีแล้วแต่ยังร้องเพลงเพื่อเยียวยาจิตใจ และได้มีการฟอกไตเรื่อยมาก่อนหน้านี้นาง สาวมลิวัณฟอกไตที่โรงพยาบาลอำเภอกุมภวาปี ซึ่งอยู่ไกลจึงได้ขอย้ายมาฟอกไตที่อำเภอ โพลพิสั์ จังหวัดหนองคายซึ่งอยู่ใกล้บ้านคุณใหม่
บุตรสาวโดยฟอกทุกวันอังคารกับวันเสาร์จน กระทั่งล่าสุดเมื่อต้นๆเดือนมิถุนายนปี 256 อาการป่วยของนางสาวมลิวัทรุดลงมากจน ไม่อาจร้องเพลงได้อีกต่อไปต่อมาได้เกิด ความเข้มข้นของเลือดตกจนต้องเข้ารักษาตัว ที่โรงพยาบาลในจังหวัดหนองคายเมื่ออาการ ดีขึ้นก็ออกมาพักฟื้นอยู่บ้านลูกชายได้ 2-3 วันอาการก็กำเริบอีกจนต้องเข้าโรง พยาบาลรอบที่ 2 ในวันที่ 25 มิถุนายนปี 256 โดยมีอาการความดันตกสภาพร่างกายย่ำ แย่จนไม่สามารถเข้าเครื่องฟอกไตได้เมื่อ ไม่สามารถฟอกไตบรรทวาการได้ตอนที่นางสาว มลิวัยังมีสติอยู่จึงได้ขอหมอกลับบ้านคุณ สิทธิชัยบุตรชายจึงได้มารับกลับบ้านในวัน
ที่ 28 มิถุนายนเวลา 20:00 น.จากนั้นอดีต นักร้องดังก็เริ่มไม่ได้สติและต้องใช้ เครื่องออกซิเจนช่วยหายใจในที่สุดแม่เอ สมสกุลก็หลับไปชั่วนิรันดร์ในวันที่ 30 มิถุนายนปี 256 ตำนานเพลงคิดฮอดจังเลยแม่ เอสมสกุลมีทายาท 2 คนคือลูกสาวคุณมายสาย พิณวังกอภัยและลูกชายคุณจิตชัยวังภัยทีม งานโหดี Channel ต้องขออภัยที่เพิ่งทราบ ข่าวการจากไปอย่างกระทันหันของตำนานเพลง คิดฮอดจังเลยจึงเพิ่งได้มาแจ้งเรื่องข่าว หลังจากท่านจากไปแล้วสำหรับแฟนเพลงผู้ที่ ชื่นชอบผลงานของนางสาวมลิวัณหรือเอสมสกุล ก็สามารถร่วมทำบุญ 100 วันซึ่งทาง ครอบครัวจะทำบุญในเดือนตุลาคมปี 256 ที่
จะถึงนี้โดยโอนเข้าบัญชีคุณแม่เอสมสกุล ซึ่งเราจะปักหมุดไว้ในคอมเมนต์แรกนะครับ เป็นบัญชีของผู้วายชนซึ่งมอบหมายให้ทายาท ดูแลนางสาวมลิวัณหรือเอสมสกุลมีชื่อจริง ว่าสมสกุลหอมภูงาปัจจุบันเปลี่ยนเป็นนาง สมสกุลสีตาแสนมีชื่อเล่นว่าเอ๋เกิดเมื่อ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ปี 2505 เป็นลูกคน ที่ 4 ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 6 คนของคุณ พ่อเข็มทรคุณแม่คำเป้าหอมภูงาบ้านเกิดของ เธอคือตำบลจุมพลอำเภอพลพิสัยจังหวัด หนองคายเธอเกิดในครอบครัวยากจนเหมือนนัก ร้องดังหลายคนในอดีตจึงต้องลำบากดิ้นรน ช่วยครอบครัวด้วยการหาผักขายหาเงินเรียน หนังสือมาตั้งแต่เด็กในขณะเดียวกันเธอก็
มีใจรักเสียงเพลงชอบร้องเพลงมาตั้งแต่ เล็กแต่น้อยเพลงที่เธอหัดร้องยาวนั้นก็มี เพลงเพลงแว่วเสียงซึงของเรียมดาราน้อย เพลงด่วนจี๋ไปรษณีย์จ๋าของเสียงทิพย์ ปทุมทองทิ้งนาลืมทุ่งของพุ่มพวงดวงชัน ซึ่ง 2 เพลงหลังนี้เด็กหญิงเอสมสกุลใช้ เป็นเพลงไม้ตายเวลาขึ้นประกวดร้องเพลงเธอ เริ่มต้นชีวิตนักร้องด้วยการเป็นนักร้อง ประกวดมาตั้งแต่ตอนเรียนหนังสือชั้นป.
1 ที่โรงเรียนบ้านจอมนางโดยตระเวียนประกวด ตามเวทีตามงานเทศกาลต่างๆในละแวกนั้นและ ก็คว้ารางวัลชนะเลิศมาเพียบรางวัลหนึ่ง ที่เธอประทับใจยิ่งก็คือตอนที่เธอเรียน ชั้นป. 5 ที่โรงเรียนจุมพลอำเภอโพลพิสัย เธอคว้ารางวัลชนะเลิศที่สถานีตำรวจภูธร โพลพิสัยในยามนั้นมีผู้กองคนหนึ่งชื่อ วิรัตน์ซึ่งใจดีชื่นชอบความสามารถของเด็ก หญิงเอ๋จึงส่งเสริมเธอด้วยการพาไปร้อง โชว์ตัวตามงานต่างๆของจังหวัดหนองคาย เมื่อเด็กหญิงเอสมสกุลเห็นว่าร้องเพลง แล้วมีรายได้แต่ยามไปโรงเรียนต้องใช้เงิน ความที่ครอบครัวของเธอยังยากลำบากเธอจึง ตัดสินใจออกจากโรงเรียนเพื่อมาร้องเพลง
เป็นหลักโดยมุ่งเป้าไปปักหลักที่จังหวัด อุดรธานีซึ่งมีช่องทางให้ร้องร้องเพลงมาก กว่าเธอไปขออาศัยอยู่กับพี่สาวคนที่ 3 ซึ่งมีบ้านอยู่ที่อุดรธานีและมีฐานะเป็น ถึงสะใภ้นายพลช่วงนั้นเอสมสกุลอายุย่าง 13 ปีแล้วเธอประเดิมร้องเพลงที่ห้องอาหารสระ น้ำพาไดส์ร้องอยู่ที่นั่นไม่กี่เดือนวง ดนตรีสายันสัญญาก็ไปแสดงที่โรงหนัง เฉลิมวัฒนาอุดรธานีเอสมสกุลมีโอกาสได้ไป เจอกับพี่เป้าสายันต์ที่นั่นซึ่งเมื่อได้ เจอกันพี่เป้าสายันก็ให้ความเอ็นดูและ เมตตารับเธอเข้าไว้ในวงพร้อมทั้งชื่อนัก ร้องให้เธอว่าสมชีวันสัญญาชีวิตนักร้อง แบบมืออาชีพของเธอจึงเริ่มต้นจริงจังใน
คราวนั้นสมชีพสัญญาหรือเอสมสกุลเดินสาย ร้องเพลงอยู่กับวงพี่เป้าสายันได้ราวๆปี กว่าความที่เธอยังเด็กก็เกิดคิดถึงบ้าน อย่างหนักถึงขั้นทนไม่ไหวจนต้องแอบหนีจาก วงแล้วกลับบ้านเกิดจากนั้นก็ไปขออาศัยกับ พี่สาวคนเดิมที่อุดรธานีอยู่ที่อุดรได้ 3-4 ปีเธอเริ่มโตเป็นสาวสะพรั่งและได้พบ รักกับนายธนาคารหนุ่มทั้งสองรักใคร่ชอบพอ กันถึงขั้นตกลงใจจะแต่งงานกันแต่สุดท้าย ทางผู้ใหญ่ของฝ่ายชายตั้งข้อรังเกียจว่า เอ๋มีอาชีพเต้นกินรำกินเป็นนักร้องถึง ขนาดยื่นคำขาดกับฝ่ายชายว่าห้ามไม่ให้ติด ต่อกับฝ่ายหญิงอีกไม่งั้นจะไม่ให้เขาใช้ นามสกุลร่วมตระกูลเอ๋สมสกุลในวัย 18 ปี
รู้สึกปวดร้าวทั้งที่ยังรักฝ่ายชายมากและ ยังงงๆว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เธอก็ตัดสินใจ เลิกกับเขาเพราะไม่อยากให้คนรักต้องแตก แยกกับครอบครัวฝ่ายชายก็เสียใจมากจนตัด สินใจไปบวชเอสมสกุลหักอกหักใจพาตัวเอง เข้าสู่เมืองกรุงเพราะหากยังอยู่อุดร เหมือนเดิมก็ยากที่จะลืมรักที่ปวดใจคราว นี้เธอเริ่มต้นร้องเพลงที่ห้องอาหารตาล เดียวของวงจันทร์ไพโรจนักร้องชื่อดังที่ นี่เองเธอได้รู้จักกับครูสมบัติบุญศิริ นักร้องนักแต่งเพลงที่ชอบน้ำเสียงของเธอ และนำไปสู่การได้เป็นนักร้องอัดแผ่นครั้ง แรกของเอ๋สมสกุลนั่นคือชุดสาวอีสานคอย อ้ายโดยใช้ชื่อนักร้องว่าสมชีวันขวัญราช
เพลงชุดนี้ยังไม่เข้าเป้าเท่าที่ควรต่อมา เอสมสกุลก็ได้มีผลงานชุดที่ 2 ซึ่งชุดนี้ เองที่แจ้งเกิดให้เธออย่างสวยงามโดยทาง ผู้ผลิตให้เธอใช้ชื่อนักร้องว่าหนังสาว มลิวันมีเพลงเด่นๆเช่นคิคิดฮอดจังเลยบ้าน แม้วธรรมชาติเมืองสุยว่ากันว่ากลยุทธ์การ โปรโมทเพลงชุดนี้ใช้วิธีสร้างสตอี่ว่านาง สาวมลิวัเป็นนักร้องที่ข้ามจากฝั่งโขง ประเทศลาวมาร้องเพลงที่ประเทศไทยปรากฏว่า ชื่อของนางสาวมลิวัโด่งดังจากเพลงคิดฮอด จังเลยเป็นอย่างยิ่ง เดือนอ้าย เดือนที่ใดกันเล่า โดนแล้วแม่เงา บ่เคยเคยหันกลับมา ต่อมานางสาวมิลลิวัได้มีผลงานเพลงอื่นๆ ตามมาเช่นส้มตำหน้าปั๊มและชุดอื่นๆ
ส้มตำหน้าปั๊มยามค่ำจอกมะโล แม้นางสาวมลิวัเป็นนักร้องอัดแผ่นแล้วแต่ เธอก็ยังรับร้องเพลงตามห้องอาหารอยู่หลาย ที่ยุคหนึ่งจัดว่าเธอเป็นขวัญใจของคอเพลง ยามราตรีต่อมาชื่อเสียงและผลงานของเธอก็ ค่อยๆห่างหายและว่างเว้นจากการออกผลงาน เพลงใหม่ๆเนินานผ่านไปนางสาวมลิวัได้หวน กลับมาทำเพลงอีกครั้งในชื่อนักร้องว่าเอ๋ สมสกุลโดยมีผลงานเพลงกับค่าย RS เช่นนับ นิ้วคอยเป็นต้นมีเพลงเพราะๆที่เอ๋สมสกุล ร้องไว้หลายเพลงต่อมาเอ๋สมสกุลก็ห่างหาย ไปจากวงการเพลงอยู่หลายปีและมีข่าวออกมา ว่าชะตาเธอพลิกผันชีวิตค่อนข้างลำบากต้อง ป่ากัดตีนถีบอาศัยร้องรำตามตลาดนัดเพื่อ
ขอทาน้ำใจจากผู้คนให้ได้มาซึ่งเงินเลี้ยง ปากเลี้ยงท้องของตนเองและครอบครัวข่าวที่ น่าชวนเห็นใจยิ่งก็คือเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2560 เอ๋สมสกุลหรือนางสาวมลิวัณเจ็บ ป่วยกระทันหันถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลชัยวาฬ แพทย์วินิจฉัยเบื้องต้นพบอาการน้ำท่วมปอด จึงได้ใส่ท่อช่วยหายใจจากนั้นก็ส่งตัวเธอ ไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลอุดรธานีและนอน รักษาตัวที่นั่นประมาณ 1 สัปดาห์อาการ ค่อยๆดีขึ้นแพทย์จึงถอดท่อช่วยหายใจและลง ความเห็นว่าเธอป่วยเป็นโรคไตวายระยะที่ 5 และแนะนำให้เธอฟอกไตแต่ทางครอบครัวของเธอ ติดปัญหาเรื่องทุนทรัพย์นางสาวมลิวัจึง ปฏิเสธการฟอกพอกไตหันมาใช้วิธีรักษาตาม
อาการโดยต้องเข้าออกโรงพยาบาลเดือนละ 4-5 ครั้งเพื่อให้เลือดและอาการของเธอก็ทรุด ลงเรื่อยๆต่อมาในช่วงปลายๆปี 2562 รายการ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละครของไทย PBS ก็ได้นำ เสนอชีวิตที่ยากลำบากของเธอในชื่อตอนว่า เพลงรักษาใจโดยฉายภาพเรื่องราวของนักร้อง ผู้ป่วยหนักแต่รักษาใจด้วยการร้องเพลงมี แฟนเพลงที่ได้รับชมรายการทั้งแบบสดๆและ แบบออนไลน์แสดงความเห็นใจเธออย่างมากมาย และแล้วนางสาวมลิวัณหรือเอสมสกุลก็ได้พัก ผ่อนชั่วนิรันดร์โดยจากไปอย่างสงบในวัน ที่ 30 มิถุนายนปี 256 อายุ 73 ปี
cr: https://www.youtube.com/watch?v=2jV3wT73Pp4