แวะปั๊มครั้งเดียว !!! พลิกชีวิต  2 นักเพลงที่ท้อหนัก ให้ดังรุ่งพุ่งแรง

แวะปั๊มครั้งเดียว Witch ชีวิต 2 นักเลง ที่กำลังท้อแท้ให้ดังรุ่งพุ่งแรง ข้อต่อไปนี้เป็นเรื่องเหลือเชื่อที่ได้ เกิดขึ้นจริงๆเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ ยืนยันได้ว่าคนเราเมื่อมีวาสนาต่อกันย่อม มีเหตุให้ได้เจอกันแม้จะดูคล้ายเป็น เรื่องบังเอิญแต่ท่านว่าในโลกนี้ไม่มี

เรื่องบังเอิญเพียงแต่ด้วยขีดจำกัดของ ปัญญาการอย่างทราบของคนเราซึ่งมีอาจย้อน ทวนระลึกไปในอดีตเก่าก่อนที่ทับถมซ้อนกัน มาหลายภพหลายชาติจึงไม่อาจเห็นที่มาที่ไป ได้แบบรู้แจ้งแทงตลอดได้เมื่อใช้เหตุผล และสายตาแบบคนทั่วไปมองเรื่องราวต่างๆจึง คล้ายเป็นเรื่องบังเอิญประจวบเหมาะเรื่อง

นี้ก็เช่นกันเป็นการเจอกันของสองนักร้อง นักเพลงที่ต่างกำลังตกอยู่ในห้วงท้อถอย เหนื่อยล้าจากการล่าฝันนักร้องผู้หนึ่ง เป็นหนุ่มเมืองชลเกิดมาลำบากจากจนตั้งแต่ เด็กพ่อแม่ไม่มีบ้านอยู่ต้องไปอาศัยชายคา บ้านเขาต่อเพลิงอาศัยอยู่แล้วก็ต้องย้าย ไปเรื่อยๆเพราะไม่มีที่มีทางเป็นของตัว

เองแม่ที่เหลือตั้งแต่อายุได้ 6 เดือนพ่อ ก็ได้เมียใหม่แม่เลี้ยงไม่ชอบขี้หน้าเลย ไม่ได้อยู่กับพ่อต้องเรียนร่อนพิบูลย์ เกียวกับญาติพี่น้องลุงป้าน้าอาตั้งแต่ ยังเด็กกินข้าวบ้านโดนบ้างนอนบ้านนี้บ้าง หรือไปหญ้าบางคนก็เวทนาสงสารแต่ย่านบางคน พูดให้เจ็บช้ำน้ำใจว่าเอ๊ะมาที่ไหนมารัก

กินข้าววะเมื่อคืนข้าวในหม้อแหว่งไปเยอะ เขาผ่านความลำบากธุระทุเรกว่าจะเรียนจบม 6 สุดท้ายก็ตกงานเพราะเหเร่ร่อนด้วยไปมี จังหวะโชคดีได้อยู่วงดนตรีรวมดาวกระจาย ของครูสำเนียงม่วงทองโดยร้องเพลงประกวด ชนะที่ 1 แต่ผ่านไป 3 ปียังไม่ได้ร้อง

เพลงเพราะพวกเค้าวงใหม่ๆจะได้รับหน้าที่ เป็นคอนวอยคอยแบกของแบบกรองแบบเครื่อง แต่งตัวผู้หญิงเวลาปิดนิคก็มีหน้าที่เก็บ บัตรผ่านประตูเข้าประตูเป็นแผนกปะทากับ พี่โก๋ตลอดด้วยความเป็นคนตัวใหญ่มีความ บ้าบิ่นประสาวัยรุ่นและตอนเรียนมัธยมเคย ต่อยมวยอ่าจนวันหนึ่งเมื่อเวลาผ่านไป 3 ปีกว่าวงดนตรีไปเดินสายที่อีสานแถว

ปากช่องนักร้องคิวที่ 3 ดันติกินส้มตำ ท้องเสียครูสำเนียงเลยให้นมสมนึกครองมา ซึ่งครูตั้งชื่อให้ใหม่ว่าชลธีธารทองไป ร้องแทนคนดูได้ฟังนักร้องคนนี้ร้องก็ชอบ ใจตะโกนบอกขออีกเพลงหนึ่งแล้วจากนั้นเป็น ต้นมาครูก็ให้เขาเป็นนักร้องคิวที่ 3 แทน นักร้องผู้ท้องเสียผิดเวลาซึ่งโดนโยกมา

เก็บบัตรเฝ้าประตูแทนเขาอย่างไรก็ตาม ชีวิตเขาผกผันระหกระเหินอยู่ไม่ขาดแบบ กรองกว่า 3 ปีต่อมาได้เป็นนักร้องได้ค่า ตัวราว 39 บาทเป็นที่รักของครูสำเนียงหัว หน้าวงแต่อยู่ได้ 6-7 ปีก็มีอันต้องโดน ไล่ออกจากวงพร้อมเพื่อนนักดนตรีนักร้อง อีก 5 คนเพราะถูกใส่ร้ายป้ายสีว่าจะแยก

ตัวไปตั้งวงแข็งแม้เขาจะยืนยันความ บริสุทธิ์แต่หัวหน้าวงกำลังโกรธจัดไม่รับ ฟังคำอธิบายจึงเอ่ยลาน้ำตาไหลด้วยความหัว ใจขนของออกจากวงดนตรีออกร้อนรี่ขนจากนั้น มีคนออกทุนตั้งดนตรีให้ชื่อวงศ์สุรพัฒน์ แต่ผ่านไปไม่ถึงปีวงก็ล้มต้องสลายตัว เพราะไม่มีนักร้องดังเป็นแม่เหล็กเรียกคน

ดูแต่วงนี้ก็ทำให้เขาได้เจอภรรยาเมื่อ คราวไปแสดงที่อำเภอแก่งเสือเต้นสระบุรีใน ช่วงวงยังไม่ล้มเขาใช้เวลาว่างแต่งเพลง จำนวนมากซึ่งเป็นพรสวรรค์ติดตัวและได้ เรียนรู้สึกฝนจากการเพื่อชิดกับครู สำเนียงม่วงทองสมัยอยู่วงรวมดาวกระจายแม่ เขาจะได้ชื่อว่าแต่งเพลงดังอย่างพอหรือ

ยังที่ศรคีรีศรีประจวบกับร้องแต่ก็ไม่ ช่วยให้ขายเพลงได้คล่องห่อเพลงเดินเสนอ ขายกี่ห้างกี่ร้านก็ไม่มีใครสนใจซื้อ เพราะต่างไม่เชื่อว่าชลธีจะแต่งเพลงได้ แม่เขายืนยันว่าเขาเองนั่นแหละเป็นผู้ แต่งเพลงพอรึยังจริงๆก็โดนสามารถว่าโกหก คนมักจะเข้าใจว่าเพลงพอหรือยังเป็นผลงาน

การแต่งของครูไพบูลย์บุตรขันเพราะส่วน ใหญ่แล้วเนื้อเพลงดังของศรคีรีล้วนกลั่น มาจากฝีมือของครูผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้หนุ่ม ชลธีเดินขายเพลงจะรองเท้าขาดขนาดขอขาย เพียงละ 200 บาทก็ยังไม่มีคนสนใจซื้อ เมื่อวงสุรพัศล้มเขาก็มาตระเวนขายเพียง ต่อโชคดีมีห้างเมโทรช่วยซื้อเพลงประมาณ 30

เพลงได้เงินมา 3,000 บาทพอได้รอดตายได้ หายใจอีกเฮือกหลังจากที่ซันเซร่อนโดยไม่ มีรายได้รวมกำลังทำท่าจะดีช่วงนั้นศรคีรี ก็แวะมาหาเขาขอให้แต่งเพลงให้ 10 เพลงเขา ก็ดีใจที่จะได้มีเงินก้อนจากค่าเพลงแต่ แต่งไปได้แค่ 6 เพลงก็ทราบข่าวร้ายจากทาง วิทยุว่าศรคีรีศรีประจวบเสียชีวิตจาก

อุบัติเหตุทางรถยนต์สิ่งนี้เป็นเหมือนฟาง เส้นสุดท้ายที่ทำให้เขาท้อแท้หนักขึ้นไป อีกเดินตามฝันมาหลายปีได้ร้องเพลงอัดแท่น ตอนที่อยู่องค์โดนดาวกระจายแล้ว 4 เพลง แต่ไม่ดังแต่งเพลงดังแล้วแต่ว่าชื่อเสียง ไม่ได้มีการยอมรับโดนไล่ออกจากวงตั้งวง เองก็ไปไม่รอดอยู่กรุงเทพฯค้างค่าเช่าทน

หิวโดนขายเพลงก็ขายไม่ค่อยได้เพราะทำท่า ว่าจะดีมีโอกาสแต่งเพลงให้นักร้องดังนัก ร้องที่สั่งเพลงก็มีอันเป็นไปเสียก่อน เหมือนเส้นทางสายเพลงของเขามืดมนบอกไม่ เห็นจุดหมายทุกอย่างประเดประดังในใจกัน เป็นการตัดสินใจที่จะลาเมืองกรุงไปใช้ ชีวิตชาวไร่ที่บ้านภรรยาแต่ก่อนที่จะเดิน

ทางจากเมืองหลวงปีนั้นเป็นปี 2516 วัน หนึ่งเขาไปทำธุระแถวบุคคโลแล้วเกิดปวด ท้องเบาเลยแวะขอเข้าห้องน้ำที่ปั๊มเชลล์ แห่งหนึ่งชื่อว่าปั๊มพรรุ่งโรจน์และการ แวะเข้าปั๊มครั้งนี้เองที่เปลี่ยนแปลง ชะตาของเขาและนักเพลงอีกคนนึงจาก สุพรรณบุรีไปโดยสิ้นเชิงหนุ่มคนนั้นในวัน

นั้นเป็นเพียงเด็กล้างรถประจำปั้มขณะที่ หนุ่มชลธีเดินไปเข้าห้องน้ำก็ได้ยินเพลง พอหรือยังเพลงดังของศรคีรีที่เขาแต่งดัง กล้องมาจากไอ้หนุ่มล้างรถซึ่งครูจนี่คือ บรรยายว่ารูปร่างดีหน้าตาใช้ได้แต่คราบ เหงื่อกลิ่นน้ำมันทำให้ดูไม่สะดุดตาแต่ เสียงร้องของเด็กปั้มผู้นี้ดีเข้าขั้น

สะดุดหูนักร้องนักแต่งเพลงที่กำลังจะลาวง การและแวะเพียงมาตรวจทุกเท่านั้นเมื่อ เข้าห้องน้ำเสร็จความติดใจในน้ำเสียงทำ ให้ครูชลธีมองดูเด็กความคนนั้นซึ่งยังคง ร้องเพลงอยู่เพราะร้องเพลงเสร็จพูดละที่ เลยเข้าไปถามแล้วบทสนทนาก็เป็นไปประมาณ นี้ให้หนูเสียงดีนี่หว่าอยากเป็นนักร้อง

ไหมอยากครับเพลงเหรอเพลงมีนายทุนไม่หรอก มีครับอยู่ข้างในชื่อซ้อนน้อยอิงคนันท์ เป็นเจ้าของปั๊มหนุ่มคนนั้นก็พาผมไปพบ ซ้อนน้อยครูเชื่อที่จะบอกว่าเด็กคนนี้ เสียงเป็นเงินเป็นทองนะจะลองอัดเสียงดู ไหมผมมีเพลงอยู่อาจารย์ถ้ามีเพลงก็มาลอง

ดูสิผมก็เลยให้เพลงเขาไป 2 เพลงให้เขาโดย ไม่คิดตังค์เลยนะสลึงเดียวก็ไม่ได้นั่น คือเพลงลูกสาวผู้การกับแบบปลาร้าซึ่งสอง เพลงนี้เป็นเพลงที่แต่งเพื่อป้อนให้สอน เคลียร์และประจวบกับ Order แต่เขาก็พาลา โลกไปซื้อก่อน 2 เพลงนี้จึงเป็นเหมือน เนื้อคู่ของนักร้องหนุ่มเด็กความคนนี้ ซึ่งกลายมาเป็นสิบคนแรกของครูชลธีธารทอง

ทางเดินชีวิตเขาก็ระหกระเหินผ่านความ ลำบากมามากมายแทบไม่ต่างจากผู้เป็นนัก แต่งเพลงขอกล่าวโดยย่อๆถึงประวัติที่มา ที่ไปของหนุ่มเดินทำคนนี้ว่าก่อนจะมาลง เอยเป็นเด็กปั๊มล้างรถด้วยความทอดอะไรต่อ การล่าฝันนั้นเขาผ่านความผูกพันลำบากลำบน บานไม่น้อยเช่นกันเขาคือนายสายัณห์ดีเสมอ เกิดเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2496 ที่ตำบลป่าสะแกอำเภอเดิมบางนางบวช

จังหวัดสุพรรณบุรีเรียนจบป 4 ก็มาช่วยพ่อ แม่ทำนาต่อมาไม่นานพ่อก็เสียชีวิตลงเขา จึงต้องเผชิญโรคและชะตากรรมกับแม่มาโดย ลำพังสายัณห์ชอบร้องเพลงลูกทุ่งมาตั้งแต่ เด็กมีหน้าชื่อสว่างเป็นคนพาไปประกวดร้อง

เพลงตามที่ต่างๆชนะเลิศมาหลายครั้งมีความ ใฝ่ฝันอยากเป็นนักร้องอัดแผ่นเคยได้รับ โอกาสผมอยู่วงดนตรีหลายวงเช่นวงค์เทียน ชัยสมยาประเสริฐวงศ์ผ่องศรีวรนุชวงรวมดาว กระจายของครูสำเนียงม่วงทองวงบรรจบเจริญ พรพวงก้านแก้วสุพรรณและวงชินกรไกรราชโดย

ใช้ชื่อนักร้องว่ากำชัยราษฎร์บำรุงแต่ ชื่อเสียงของเขายังไม่มีชีวิตอย่างลำบาก ที่วงดนตรีของชินกรไกรราชนี่เองที่ทำให้ ได้เจอผู้ประการะคือเฮียเล็กและซ้อนน้อย ศรีอิงคนันท์ซึ่งเป็นเจ้าของปั๊มน้ำมันพร รุ่งโรจน์ย่านบุคคโลและเป็นเจ้าของวง ดนตรีรวมพรปี 2515 ผู้อุปการะทั้ง 2 กอง ทุนให้สายัณห์สัญญาอัดแผ่นเสียงสองเพลง

คือเพลงรักเธอเท่าฟ้าและพัดคู่โดยครูฉลอง การะเกดผู้แต่งเพลงรักเธอเท่าฟ้าเป็นผู้ ตั้งชื่อนักร้องไห้ใหม่จากกำชัยราษฎร์ บำรุงมาเป็นสายัณห์สัญญาโดยเอาชื่อจริง ของสายัณห์ดีเสมอแล้วก็เอาคำผวนสายัณห์ สัญญามาเป็นนามสกุลอย่างไรก็ตามเพลงที่ อัดมาเป็นแผ่นเสียงนั้นถูกกัดดองไว้และ

เพลงที่เปิดแต่ถ้าและวิทยุก็ยังไม่ถึง ขั้นจิตของผู้ฟังแฟนเพลงความหวังที่จะนำ ของเขาความหวังที่จะมีเงินมีทองก็เลยมี อันต้องสลายไปจิตใจห่อเหี่ยวสายัณห์สัญญา จึงขอบกระเป๋าย้ายไปอยู่กับวงที่ณกรไกร ลาศอีกอยู่ในปีเศษไม่มีอะไรดีขึ้นจึงกลับ มาอยู่กับวงรวมพรแต่วงก็ไปไม่รอดสุดท้าย

จึงมาเป็นเด็กล้างรถเพื่อหาเงินประกัน ชีวิตไปวันๆเป็นอันว่าวันที่ครูชลธีแวะไป เข้าห้องน้ำนั้นเป็นการเจอกันโดยบังเอิญ หรือโดยชะตาฟ้าลิขิตของ 2 นักเพลงที่ กำลังใจด้านเสียงเพลงห่อเหี่ยวท้อแท้ด้วย กันทั้งคู่และการพบกันครั้งนั้นก็พริก ชีวิตของทั้งคู่โดยสิ้นเชิงในเวลาต่อมา

เมื่อตกลงว่าจะมอบเพลงลูกสาวผู้การและ แหม่มปลาร้าให้สายัณห์ฟรีๆก่อนจะบวกมือลา เมืองกรุงครูตัวทีก็พาสายัณห์สัญญาไปอัด เสียงที่ห้องอัดพอวรานนท์ย่างผ่านฟ้าข้อ มูลนี้ปรากฏอยู่ในหนังสือเทวดาเพลงภาค สมบูรณ์เรียบเรียงโดยบุญเลิศช้างใหญ่ซึ่ง ครูชลธีเผยว่ามีการอัดครั้งนี้เขาไม่มี

แม้แต่ข้าวอัดเลยพูดตรงๆกับ for วรานนท์ เจ้าของอ่านว่าพี่ปอครับผมไม่มีสตางค์ให้ พี่หรอกผมมาบอกพี่ว่าผมอาจ 2 เพลงนี้ เพื่อเป็นการอำลาวงการผมเลิกอยู่วงการลูก ทุ่งแล้วจะกลับไปใช้ชีวิตบ้านนอกแล้วผมขอ ลาพี่เจ้าของอาจในฝั่งก็ตกใจกล่าวว่าให้

พูดอะไรใจหายว่ะรีบไปทำไมสู้ต่อสิสู้ต่อ สู้ยังไงหล่ะพี่ค่าห้องผมยังไม่มีให้พี่ เลยเมื่อดูอาการว่าไม่อาจเปลี่ยนความตั้ง ใจของเขาได้เจ้าของอาจผู้อารีมีน้ำใจก็ เอ๋ยว่าไม่เป็นไรเราที่น้องกันไปอย่างนี้ ก็แล้วกันถ้านายจะไปจริงๆเราก็ไม่รู้จะ พูดยังไงเราให้นาย 1,000 บาทค่ารถกลับ บ้านเป็นอันว่าแทนที่จะได้เข้าห้องอัด for

วรานนท์กลับเคาะกระเป๋าให้ค่ารถกูโทรทีมา 1,000 บาทเมื่ออัดเพลงเสร็จเรียบร้อย ฝ่ายครูเพลงก็บอกลาเจ้าของบ้านเช่าย่าน พรานนกพาภรรยาไปอยู่กับพ่อตาแม่ยายที่ อำเภอแก่งเสือเต้นสระบุรีกะว่าราเคย์ถ้า

ขาดจากวงการเพลงไปทำได้ข้าวโพด file นัก ร้องสายัณห์สัญญาหลังจากเพลงลูกสาวผู้การ ปล่อยออกไปเขาก็แจ้งเกิดได้อย่างสวยงาม วิทยุพากันเปิดเพลงลูกสาวผู้การการสนัด ส่งผลให้เพลงรักเธอเท่าฟ้าและพักคู่ที่ บันทึกเสียงไว้ก่อนก็ถูกนำมาเปิดไปด้วย เรียกว่าช่วงนั้นเป็นจุดเริ่มต้นนาทีทอง ของนักร้องน้ำว่าสายัณห์สัญญาและในเวลา ต่อมาก็มีเพลงดังจากเขาหลายเพลงเป็นขบวน

ความดังทั่วประเทศของเพลงลูกสาวผู้การ ผ่านทางคลื่นวิทยุไปเข้าหูของครูชลธีผู้ แต่งเพลงขณะที่กรำงานหนักในไร่อ้อยตื่น แต่เช้าแล้วก็ทำงานไปจนถึงทำแม้เพลงจะดัง แต่ความกระตือรือร้นที่จะหวนคืนเมืองกรุง ยังไม่มีจนกระทั่งมนต์เมืองเหนือผู้ค่ำ หวอดในวงการลูกทุ่งและมีส่วนปั่นนักร้อง

ดังหลายคนในเวลาต่อมายามนั้นได้พยายามสืบ เสาะตามหานักแต่งเพลงที่แต่งเพลงดังเป็น ผู้แตกเมื่อมาเจอกันครูมนต์เมืองเหนือผู้ มีสไตล์การพูดแบบลูกทุ่งก็และก็พูดแล้ว ที่ว่ามาทำห่านอะไรอยู่นี่ว่าพ่อเพลงดัง ชิบหายเลยคนตามหากันทั้งวงการอยากได้เพลง ชลธีธารทองเงินอยู่นนท์ทำไมไม่ไปเอาและ

นี่ก็เป็นจุดกำเนิดเรื่องราวต่อจากนี้ หลังจากเพลงลูกสาวผู้การดังระเบิดแจ้ง เกิดให้นักร้องและนักแต่งเพลงชีวิตทั้ง คู่ก็บ่ายหน้าสู่ความสำเร็จด้านคนแต่งก็ จะเป็นการทยอยแต่งเพลงแล้วเพลงเล่าที่ สร้างชื่อให้นักร้องดังหลายคนจนได้รับ ฉายาว่าเทวดาเพลงซึ่งเราจะนำมาเล่าในตอน

ต่อๆไปเพื่อไม่ให้คืนนี้ยาวเกินไปในจุด นี้เราได้เห็นแล้วว่าการแวะเข้าปั๊มทั้ง เดียวได้เปลี่ยนชีวิตนักเลงสองคนไปตลอด กาลขอทิ้งท้ายคลิปนี้ด้วยที่มาที่ไปของ เพลงลูกสาวผู้การซึ่งเป็นเสมือนเพลงนำโชค ที่ครูชลธีกะแต่งให้ศรคีรีร้องแต่กลับ กลายมาเป็นเพลงแจ้งเกิดให้นักร้องคนซื่อ

ที่ชื่อสายัณห์สัญญาซึ่งก็เป็นแฟนเพลงตัว ยงของศรคีรีศรีประจวบครูละทีละว่าแต่ง เพลงนี้ขนาดเช่าบ้านอยู่ย่านจะมีผลตำรวจ นายหนึ่งทำงานอยู่ป้อมสี่แยกย่านพรานนกมา เล่าให้ฟังว่าชอบบอกนักศึกษาสาว ธรรมศาสตร์เวลาเดินผ่านป้อมยามทุกวันแต่

ด้วยความที่เป็นตำรวจชั้นผู้น้อยไม่กล้า ไปรักไปจี่เพราะนักศึกษาคนนั้นเป็นถึงลูก สาวผู้การซึ่งเป็นเจ้านายเขาไม่กล้าจีบ จังวานผมช่วยเขียนเพลงแทนใจผมเห็นทอด เรื่องน่าสนใจเลยแต่งออกมาเป็นลูกสาวผู้ การดังนี้เกิดมาจนทุกเหลือทนนท์พลตำรวจ เรื่องศักดิ์ศรีไม่มีโอ๊ตพลตำรวจผู้น้อย ด้วยขั้นกลุ้มใจนักผมหลงรักลูกสาวในพัน

เธอเดินผ่านป้อมยามทุกวันเก็บไปฝันถึงจน งมงายแปลกจริงเออผมรักเธอแล้วไม่กล้าบอก พ่อเธอรู้กลัวโดนไล่ออกลัวโดนออกเอาเสียง ง่ายๆได้แต่พะว้าเรามีค่าแค่เพียงเม็ด ทรายบางๆรักลูกสาวเจ้านายโชคจะร้ายแล้วสิ นะเราอยู่ป้อมยามได้แต่มองจ้องเธอทุก ครั้งเมื่อไหร่น้อยเธอจะผ่านมาให้เห็น

หน้าพอได้คลายเหงามานั่งฝันจนเพ้อโทนี่ เธอจะรู้หรือเปล่าคนตำรวจผู้น้อยอย่างเรา หลงรักเจ้าลูกสาวผู้การโกรธเมตตาผมเถอะ หนาท่านผู้กำกับเศร้าคุณคิดจะนอนไม่หลับ นอนไม่หลับเพราะความฟุ้งซ่านไม่กล้าเผยขอ เป็นเคยของท่านผู้การเงินเดือนน้อยโดย ทั้งการงานไม่อาจหาญไปปองดอกฟ้าผู้ละที

ตั้งใจจะให้ศรคีรีร้องแต่เมื่อเขาเสีย ชีวิตไปก่อนในที่สุดเลงนี้ก็มาลงล็อคที่ สายัณห์สัญญาคือได้ว่าเพลงนี้ช่วยให้ภาพ ลักษณ์ของตำรวจเป็นบวกและได้รับความเห็น อกเห็นใจขึ้นเพราะสมัยนั้นคนมักจะมองภาพ ตำรวจเชียงลบชาวบ้านกลัวเมื่อเพลงนี้ดัง

ตำรวจทั้งกลมจึงชอบฟังเป็นพิเศษยังมี เรื่องราวของนักร้องสายัณห์สัญญาและครู เพลงชลธีธารทองที่เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย น่าสนใจอีกมากมายนะครับทาง Audi ใช้หน้า ของเราจะทยอยนำมาเล่าในโอกาสต่อๆไปสำหรับ คลิปนี้ก็ขอจบเพียงเท่านี้พอดี Channel ขอขอบคุณทุกการรับชมรับฟังทุกการติดตาม

cr: https://www.youtube.com/watch?v=_AM8CBEzEAc