นางเอกดาราเงินล้าน ต้องตัดสินใจ หนีภัยนายพลคลั่งรัก ด้วยการแต่งงานกับคนนี้...?!! - thainews.space

นางเอกดาราเงินล้าน ต้องตัดสินใจ หนีภัยนายพลคลั่งรัก ด้วยการแต่งงานกับคนนี้…?!!

นางเอกดาราเงินล้าน ต้องตัดสินใจ หนีภัยนายพลคลั่งรัก ด้วยการแต่งงานกับคนนี้…?!!

นางเอกฉายาดาราเงินล้านต้องตัดสินใจหนี ภายในพลครั้งรักด้วยการแต่งงานกับคนนี้ [เพลง] กล่าวอย่างเคารพต่อความจริงกว่าพิศมัย วิไลศักดิ์จะก้าวขึ้นมาเป็นดาวค้างฟ้าใน ฐานะนักแสดงมากฝีมือชีวิตแรกเริ่มของเธอ นั้นบอกได้คำเดียวว่าช่างน่าสงสารเหลือ เกินเธอต้องเผชิญหน้ากับความกลัวและชะตา

ชีวิตเพียงลำพังหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้พรากพ่อกับแม่ของเธอไปและที่สร้าง ความไม่สบายใจให้เธอไม่น้อยเมื่อเป็นดารา โด่งดังแล้วต้องมาถูกคุกคามจากนายพลคลั่ง รักบ้าอำนาจจนเธอต้องตัดสินใจแต่งงานกับ ชายคนรักอย่างรอช้าไม่ได้ทางนี้ก็เพื่อ

ความปลอดภัย ของเธอกับเขานั่นเอง พิศมัยวิไลศักดิ์เกิดวันพฤหัสบดีแรม 11 ค่ำเดือน 12 ปีเถาะตรงกับวันที่ 7 ธันวาคม 2482 เกิดหลังมิตรชัยบัญชา 5 ปี หลังสมบัติเมทะนี 2 ปีที่บ้านแถวคลอง บางกอกน้อยเขตบางกอกน้อยจังหวัดพระนคร หรือกรุงเทพฯในปัจจุบันคุณพ่อหงวนกับคุณ

แม่ปุยวิไลศักดิ์มีอาชีพค้าขายพิศมัยเกิด ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อุบัติขึ้นพอ ดีชีวิตตอนเด็กแทนที่จะได้วิ่งเล่นสนุก สนานกลับต้องวิ่งลงหลุมหลบภัยพ่อกับแม่ ต้องคอยฟังเสียงไซเรนจนแทบไม่ต้องทำมาหา กินครองบางกอกน้อยบ้านของเธอเป็นหนึ่งใน หลายจุดยุทธศาสตร์ที่ข้าศึกเลือกที่จะ

ทิ้งบอมลงที่นี่มากที่สุดอายุยังไม่ครบ 3 ขวบเต็มด้วยซ้ำสงครามที่เธอไม่รู้จักแม้ กระทั่งความหมายของมันได้พรากแม่ของเธอไป ต่อหน้าต่อตาสิ้นเสียงระเบิดแม่ก็สิ้นใจ จากไปชั่วนิรันดร์ตรงนั้นอกสั่นขวัญหาย ยังไม่สร่างสิ้นพ่อก็ต้องพาลูกๆหนีตายจาก คลองบางกอกน้อยไปอยู่แถวชุมชนตรอกสุเหร่า

แขวงชนะสงครามเขตพระนครน้ำตายังไม่แห้ง ได้เรียนหนังสือในซอยมะยมยังไม่คล่อง สงครามก็มาพรากชนิดพ่อไปอีกคนชีวิตของ เด็กหญิงพิศมัยในตอนนี้ไม่ต่างจากปีนุ่น ปลิวเคว้งลอยคว้างไร้ทิศทางร้างที่พึ่ง กระทั่งพี่ชายคนหนึ่งของเธอที่มีอายุห่าง จากเธอหลายปีได้มารับเธอไปอยู่กับ

ครอบครัวของเขาด้วยสงครามทิ้งบาดแผลไว้ ทุกที่ประเทศไทยไม่ต่างจากทั่วโลกที่ กำลังเผชิญหน้ากับยุคข้าวยากหมากแพงพอ ย้ายมาอยู่ที่บ้านของพี่ชายเธอจึงกลาย เป็นอีกหนึ่งภาระที่ทำให้พี่สะใภ้มองเธอ ด้วยสายตาชิงชังรังเกียจเธอเป็นส่วนเกิน ที่ไม่อยากให้อยู่ร่วมชายคาพิศมัยต้องกิน

ข้าวแกล้มคำด่าเสียดสีครุกน้ำตาประดามี อยู่ทุกเมื่อเชื่อวันเธออยากกัดฟันด้น ด้านนี้ไปตายเอาดาบหน้าแต่เพียงคนเดียว แต่โลกก็เปล่าเปลี่ยวเชี่ยวหลานเกินไปที่ จะให้เด็กตาดำๆอย่างเธอทำอย่างนั้นได้พอ อายุ 10 ขวบได้เล่นเป็นตัวประกอบแสดงเป็น ตัวทหารยืนเสาเรื่องราชาธิราชละครที่ทาง

โรงเรียนจัดขึ้นได้ค่าจ้างเป็นอัตเป็น เบี้ยไม่กี่มากน้อยมาประทังชีวิตพิศมัย กระเสือกกระสนดิ้นรนเรียนจนจบจากโรงเรียน บำรุงวิทยาและโชคชะตานำพาให้เธอได้เข้า เรียนที่โรงเรียนนาฏศิลป์กรมศิลปากรโรง เรียนนาฏศิลป์แห่งนี้เวลานั้นมีทั้งนัก

เรียนแบบประจำและไปกลับเมื่อไม่อาจทนแรง กดดันจากทางบ้านพี่ชายได้พิศมัยซึ่งเป็น นักเรียนแบบไปกลับวันหนึ่งเธอไปแบบไม่ยอม กลับแต่แอบเข้าไปอยู่ในหอพักกับเพื่อน อย่างไม่รู้อนาคตของตัวเอง 4 วันผ่านไป พี่ชายมาตามกลับบ้านวันนั้นอาจารย์ใหญ่ ไม่อยู่มีเพียงรองอาจารย์ใหญ่กับครู นาฏศิลป์สาวคนหนึ่งเท่านั้นที่รับรู้รับ

เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดรองอาจารย์ใหญ่ถาม พี่ชายพิสมัยออกไปว่านี่เธอน้องหายไปตั้ง 4 วันพวกคิดออกตามหาเหรอก่อนหน้านี้ไป อยู่ในมาเงียบไม่มีเสียงตอบกลับความเงียบ นั่นเองที่ทำให้เขื่อนในอกของพิศมัยแตก พังทลายลงถ้อยคำที่ตึงมัดอัดแน่นในใจมา นานได้พรั่งพรูออกมาซึ่งล้วนแต่เต็มไป

ด้วยความหวาดกลัวไร้ที่พึ่งครูนาฏศิลป์ สาวที่ยืนร่วมอยู่ในเหตุการณ์วันนั้นก็ คือครูจำเรียงพุทธประดับครูของพิสมัยท่าน นี้เป็นสาวโสดอยู่คนเดียวในที่สุดเมื่อ ทราบเรื่องราวต่างๆของลูกศิษย์คนนี้แล้ว พิศมัยได้มาอยู่ในอ้อมอกแห่งความเมตตาของ ครูท่านนี้ผู้ซึ่งเพิ่งเอ่ยปากขออุปการะ

เด็กหญิงกำพร้าไว้อย่างเต็มใจตั้งแต่ปี 2494 ถึง 2498 พิสมัยได้ย้ายเข้าไปพัก กับครูจำเรียงในฐานะเด็กอุปการะที่ครู ท่านเลี้ยงดูเอาใจใส่จุดลูกสาวแท้ๆของตัว เองพิศมัยพักอยู่กับครูจำเรียงในวังหลวง ใกล้พระที่นั่งจักรีมหาปราสาทนานถึง 5 ปี วันพ้นคืนผ่าน รับการอบรมเลี้ยงดูฝึกฝนกิริยามารยาทจนงด

งามอ่อนช้อยเรียบร้อยอ่อนหวานสมเป็น กุลสตรีไทยทุกระเบียบนิ้วระหว่างอยู่กับ ครูจำเรียงและเรียนที่โรงเรียนนาฏศิลป์ พิสมัยมีโอกาสได้รำถวายพระสยามเทวาธิราช เทพยดาศักดิ์สิทธิ์ที่อภิบาลรักษาประเทศ ไทยต่อเบื้องพระพักตร์พระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และพระบาทสมเด็จ

พระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถนับเป็นบุญของ เธออย่างหาประมาณมิได้เพื่อนสนิทร่วมชั้น เรียนนาฏศิลป์ของพิศมัยมีอยู่ 4 คนคือทรง ศรีเทพคเทียมแแขกุญชรณอยุธยาคนนี้เป็น บุตรสาวของหม่อมหลวงขาวกุนชอนต่อมาเป็น ภรรยาของพระเอกรางวัลตุ๊กตาทอง 3 ปีซ้อน ไชยาสุริยันคนต่อมาคือขนิษฐากุญชรณอยุธยา และคนที่ 4 คือรำเพยพันธุ์สาวนาฏศิลป์ ทั้ง 5 คือนางรำตัวเด่นนางละครตัวเอ้ของ โรงเรียนนาฏศิลป์ได้ลำรับแขกบ้านแขกเมือง

อยู่เนืองๆพิศมัยได้ยินรำในตำแหน่งตรง กลางแถวหน้าและได้เล่นเป็นนางเอกละคร เรื่องแว่นแก้วนายขุนช้างขุนแผนตอนพลาย เพชรพลายบัวออกศึกอีกทั้งยังได้แสดงเป็น

พระเอกในละครพันทางเรื่องสังข์ทองเล่น เป็นพระสังข์ตอนหาปลาและพิศมัยเริ่มมี ชื่อเสียงเป็นที่รู้จักจากการรำฉุยฉาย พราหมณ์ที่ว่ากันว่าเธอรำได้งดงามเหลือ เกินสุพรรณพราหมณ์ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อ หนังไทยเป็นยักษ์ใหญ่ของวงการเป็นผู้ สร้างผู้กำกับหนังที่เล็กๆไม่ใหญ่ๆทำเป็น

เจ้าของค่ายหนังสาธารณภัยภาพยนตร์เขาเคย เป็นนักเรียนนายเรือแต่ถูกรีไทร์ให้ออก จากนั้นได้ประกอบอาชีพค้าขายตามแนวตะเข็บ ชายแดนกัมพูชาแถวอรัญประเทศสินค้าที่ขาย ไม่ใช่สินค้าพื้นเมืองแต่เป็นสินค้าหนี ภาษีจากเมืองฝรั่งดั้งใหญ่โน่นสุพรรณ พราหมณ์พันธุ์สนิทชิดเชื้อกับอรณาผู้กำ

หนังชื่อดังมักไปมาหาสู่เรียนรู้วิชาทำ หนังจากกันและกันเสมอกระทั่งสุพรรณได้ เข้าสู่วงการสร้างหนังอย่างเต็มตัวเขา เริ่มสร้างหนังตั้งแต่ปี 2498 หนังเรื่อง แรกๆที่สร้างเช่นลี่หลินสุภาพบุรุษเสือผา ฟ้าธรรมธิเบศร์และ 4 สิงห์นาวีเป็นต้น กระทั่งวันหนึ่งเขาถูก 10 ตำรวจตรีพิชัย

จิตตีขันธ์จับในข้อหามีสินค้าหนีภาษีไว้ ในครอบครองสุพรรณไม่ได้สนใจเรื่องที่ตน ถูกจับแม้แต่น้อยเขาให้ความสนใจตำรวจนาย ที่จับเขามากกว่าต่อมาสุพรรณได้สร้างหนัง เรื่องเล็บครุฑขึ้นในปี 2500 และคนที่มา รับบทชีพชูชัยพระเอกของเรื่องก็คือลือชัย นฤนาทหรือสิบตำรวจตรีที่จากเขาในวันนั้น

นั่นเองปี 2501 สักเกษมหุตาคมนักเขียน นวนิยายรักโศกนาฏกรรมและนักแต่งเพลงชาว สงขลาผู้ชายนำปากกาอิงอรฉายานักเขียนปลาย ปากกาจุ่มน้ำผึ้งได้ขายลิขสิทธิ์บท ประพันธ์ของตนเรื่องการะเกดให้กับสุพรรณ พราหมณ์พันธุ์นำไปสร้างหนังอิงอรหรือพ่อ ของจุ๋ยบางจากนักเดินทางผลิตสารคดีส่อง โลกผู้ยิ่งใหญ่คนนี้เคยสร้างการะเกดเป็น ละครโทรทัศน์ทางช่อง 4 มาแล้วได้รับความ นิยมพอสมควรพอเจ้าพ่อหนังอย่างสุพรรณสนใจ จึงไม่รีรอรังเลที่จะขายให้เพราะเชื่อใน ฝีมือสุพรรณอย่าได้นางเอกหน้าใหม่ที่ยัง ไม่เคยเล่นหนังหรือละครโทรทัศน์มาก่อนและ ต้องรำฉุยฉายได้ด้วยจึงไปปรึกษานักเขียน

ใหญ่และอิงอรได้เสนอทรงสีเทาคบแต่ก็ติด ที่เธอเคยเล่นหนังเรื่องสาวน้อยมาแล้วและ ยังเล่นเป็นการะเกดฉบับละครโทรทัศน์มา ก่อนอิงอรจึงพาสุพรรณไปพบน้อย ชรานุเคราะห์นักประพันธ์อื่นอีกคนของวง การซึ่งรับราชการในกองสังเขปรับใช้ในรั้ว ในวังอยู่พอดีพอทราบเรื่องน้อยไม่รอช้า ได้นำเสนอนาฏศิลป์กำพร้าอย่างพิสมัย วิไลศักดิ์ทันทีและพอทั้งสองได้เห็นหน้า ค่าตาก็รู้สึกตกใจในกิริยามารยาทหลุดสาว ชาววังของพิศมัยเป็นอย่างมากสุพรรณเลือก เธอมารับบทการะเกดจากมิดรอช้าการะเกดปี 2501 สุพรรณพราหมณ์สร้างและกำกับในนาม สถานนาวีไทยภาพยนตร์หนัง 16 มิลลิเมตร

พากย์เสียงสดโดยหม่อมหลวงรุจิราอิสลามกุล กับมารศรีอิสลามกุลณอยุธยาเข้าใช้วันที่ 1 ธันวาคม 2561 ที่ศาลาเฉลิมกรุงเฉลิมบุรี ได้ลือชัยนฤนาทพระเอกเล็บครุฑรักยิ้ม เสน่ห์มาประกบกับนางเอกใหม่ต่อต้านจากโรง เรียนนาฏศิลป์พิสมัยวิลัยศักดิ์กลายเป็น หนังที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงทำเงินได้ ถึง 2 ล้านกว่าบาทยืนโรงฉายนานถึง 2 เดือนเต็มขณะนั้นเธออายุ 19 ปีแจ้งเกิด อย่างสง่างามในฐานะนางเอกเงินล้านคนแรก ของไทยที่สมัยเคยกล่าวต่อเรื่องนี้ว่า เรื่องการะเกดสมัยนั้นเก็บค่าดูคนละ 5 บาทแต่หนังทำเงินตั้ง 2 ล้านกว่าคิดดูเอา เถิดว่าได้รับความนิยมมากมายขนาดไหนเรียก

ว่า ดังเป็นพลุแตกเลยทีเดียวพิศมัยวิไลศักดิ์ กับลือชัยนฤนาถคือเด็กสร้างของสุพรรณ พราหมณ์พันธุ์หรือชายก็เหมือนกับนักแสดง คนอื่นที่มักมีปัญหากับต้นสังกัดสุดท้าย จึงได้ขอแยกตัวออกไปแต่สำหรับพิศมัยนั้น เธอได้เล่นหนังแทบทุกเรื่องของสุพรรณ พราหมณ์หนังของสุพรรณนั้นทุกเรื่องคือ หนังฟอร์มยักษ์และเขามักจะยกกองไปปักหลัก ถ่ายทำที่สระบุรีทีละนานๆเพราะมีญาติอยู่ ที่นั่นเรื่องเด่นเรื่องดังอีกเรื่องที่ ผู้ชมยังจำได้ก็คือเรื่องตะบันไฟต่ออะไร เพลิงปี 2518 พิสมัยวิไลศักดิ์ประกบกับ พระเอกหนุ่มใหม่ไฟแรงเผ่าพันธุ์พงนที พิศมัยวิไลศักดิ์มีผลงานหนังต่อมาอีกกว่า

300 เรื่องผ่านมาแล้วทุกบทบาทและทุกบท บาทเธอตีบทแตกได้รับความนิยมจากคนดูเป็น อย่างมากเชิดทรงศรีผู้กำกับชื่อดังที่เคย กำกับเธอหลายเรื่องขนาดตั้งฉายาให้พิสมัย ว่าดาราเงินล้านเพราะเล่นเรื่องไหนไม่ได้ เงินล้านเป็นไม่มีส่วนแฟนคลับที่เป็นวัย รุ่นยุคนั้นได้ให้ฉายาเธอว่า Betty Davis เมืองไทยด้วยเพราะเธอมีความละม้ายคล้าย คลึงกับ Betty Davis นักแสดงชาวอเมริกัน ร่วมยุคกับเธอผลงานโดดเด่นโด่งดังเช่น เรื่องการะเกดสองฝั่งฟ้าดัชนีนางจำเลยรัก ดวงตาสวรรค์และโนราห์เป็นต้นและหลายต่อ หลายเรื่องจะได้ใช้วิชาร่ายรำจากโรงเรียน นาฏศิลป์มาใช้ในการแสดงด้วยเช่นเรื่อง

โนราเมขลาสีดา1นุชค่าของคนสักผีแม่ปิงและ ระห่ำลำหักเป็นต้นนอกจากรำสวยและเล่นหนัง เก่งแล้วพิศมัยยังได้ชื่อว่าเป็นนักร้อง เสียงดีอีกด้วยจะได้ร้องเพลงประกอบหนัง หลายเรื่องเช่นเพลงขวัญใจการะเกดประกอบ หนังเรื่องการะเกดปี 2511 เพลงหนาวตัก ประกอบหนังเรื่องดัชนีนางเป็นต้นพิศมัย วิไลศักดิ์เป็นผู้หญิงสวยเลอค่าอย่างไม่ มีข้อกังขาด้วยเหตุนี้เองพอเริ่มมีชื่อ เสียงโด่งดังนายพลคลั่งรักผู้มีอำนาจใน บ้านเมืองคนหนึ่งจึงอยากได้เธอเป็น อนุปริญญาอีกคนของตนเฝ้าทีเดียวไร้เทียม คือเฝ้าตามตื้อตามต้อยหาวิธีโน้มน้าวเข้า ถึงเธอทุกรูปแบบเพื่อยื่นข้อเสนออันน่า

สะอิดสะเอียนสร้างความเหมือนวิตกสะพรึง กลัวและไม่สบายใจให้เธอเป็นอย่างยิ่งไม่ ต่างจากอมราอัศวานนท์นางเอกรุ่นพี่ที่ ต้องรีบแต่งงานกับแฟนหนุ่มเพื่อหนีภายใน พลจอมตี๋คนนี้ให้เร็วที่สุดหลังร่วมงาน กันมานานหลายเรื่องหลายปีพิศมัย วิไลศักดิ์กับสุพรรณพราหมณ์พันธุ์ต่างแอบ มีใจปฏิบัติต่อกันอยู่ลึกๆกระทั่งทั้งสอง ค่อยๆเปิดใจคบหากันอย่างเงียบๆและเมื่อ ถูกคุกคามจากนายพลเมาอำนาจพิศมัยกับ สุพรรณจึงตกลงปลงใจแต่งงานกันอย่างเงียบ ที่สุดเท่าที่จะทำได้ทั้งนี้ก็เพื่อความ ปลอดภัยของทั้งสองคนสมัยก่อนเราต้องระมัด ระวังตัวกันมากจะเดินคู่กันเนี่ยไม่มีแน่

ๆมีแฟนไม่ได้เด็ดขาดจะแต่งงานทีต้องแอบทำ พิธีกันห้ามนักข่าวรู้เพราะถ้าแฟนๆรู้ เมื่อไหร่เรตติ้งตกแน่ๆพิศมัยกล่าวพิศมัย วิไลศักดิ์น่ารักเหลือดีสมบัติเมทะนีแสดง ดีเหลือใจนั่นคือหนังใหญ่ที่สุพรรณสร้าง ละอองดาวละอองดาวละอองดาวของหนุ่มสาวที่ คาเทศต่อมาพิศมัยกับสุพรรณเลิกร้างกัน ทั้งสองไม่มีบุตรด้วยกันจบกันด้วยดีจาก นั้นเธอเริ่มรับงานจากหลากหลายค่ายมาก ขึ้นและค่ายที่ดูเหมือนจะถูกโฉลกกับเธอ มากที่สุดค่ายหนึ่งก็คือค่ายศรีษะยาม โปรดักชั่นที่เล่นเรื่องไหนได้เงินล้าน เรื่องนั้นเช่นเรื่องนี่แหละรักหนึ่งนุช และกระสือสาวปี 2527 พิสมัยเริ่มเล่นละคร

โทรทัศน์ครั้งแรกเรื่องห้องที่จัดไม่ เสร็จทางช่อง 3 จากนั้นมีผลงานละครมาก กว่า 200 เรื่องนอกจากเล่นหนังเล่นละคร แล้วยังเป็นครูสอนศิลปะการแสดงให้นักแสดง อีกด้วยเช่นสอนจินตหราสุขพัฒน์ สุพรมสิริยุทธนันท์ภมรมนตรีและอีกหลายคน ต่อมาในระยะหลังด้วยอายุที่มากขึ้นพิศมัย ได้วางมือและส่งต่อให้กับทับสุวรรณเสนีย์ วงศ์ณอยุธยาเป็นคนสอนแทนพิศมัยวิไลศักดิ์ ได้รับยกย่องให้เป็นศิลปินแห่งชาติสาขา ศิลปะการแสดงภาพยนตร์และโทรทัศน์ประจำปี 2553 ได้รับรางวัลด้านการแสดงมากมายจาก หลายสถาบันพระสุราษบดีสุพรรณหงส์ชมรม วิจารณ์บันเทิงโทรทัศน์ทองคำและเมขลาแก๊ง

นางฟ้าประกอบด้วยบรรยุรฉัตรเหมือน ประสิทธิเวชสาริกาธิดาทิพย์ดวงใจ หทัยกาญจน์อรสาพรหมประทานและทัศวรรณ เสนีย์วงศ์ณอยุธยาในปีที่พวกเธอยังสาวราว เข้าวงการใหม่ๆวางเว้นจากการงานกองถ่าย เมื่อไหร่ก็จะนัดรวมตัวกันที่บ้านของ พิสมัยวิไลศักดิ์ผู้ที่เจ้าสาวแก๊งนางฟ้า เคารพนับถือตะกรุดแม่คนหนึ่งและคนที่ เรียกพิศมัยว่ามามี๊คนแรกคือโยธัสสาวัณ ต่อมาทุกคนในวงการจะเรียกพิศมัย วิไลศักดิ์ตามๆกันว่ามีตั้งแต่นั้นเป็น ต้นมาปี 2561 นี้คุณพิสมัยวิไลศักดิ์หรือ มีของพวกเราอายุ 84 ปีขอให้สุขภาพร่างกาย แข็งแรงมีความสุขมากมายครับ

Related Posts

เมื่อเปรียบเทียบสมเด็จพระราชินีสุทิดาและศรีรัศมิ์ สุวดี ความคิดของกษัตริย์ก็เปลี่ยนไป

มีสุภาษิตที่ว่าใส่เสื้อผ้าไ…

ธันวา เข้า รพ.กะทันหัน แต่งานนี้หวานใจ กรีน อัษฎาพร เคียงข้างไม่ห่าง

ธันวา เข้า รพ.กะทันหัน แต่ง…

ถูกปลดจากรายการ !! “เป็ด” แฉ “จียอน” ก่อนไล่กลับเกาหลีบ้านเกิด !!!

ถูกปลดจากรายการ !! “เ…

เทียบชัดๆแฟชั่นการแต่งกายของเจ้าคุณพระสินีนาถ พิลาสกัลยาณี และท่านผู้หญิงอรอนงค์ สิริวชิรภักดิ์

เทียบชัดๆแฟชั่นการแต่งกายขอ…

สุดเศร้า😭 อดีตดาราสุดเซ็กซี่ ฉายา”สะโพกดินระเบิด” สิ้นลมต่อหน้าลูกสาว

สุดเศร้า😭 อดีตดาราสุดเซ็กซี…

กบ สุวนันท์ ร้องไห้โฮ หลังสามีบรู๊ค ดนุพร เส้uประสาทโดนตัด อาการหuัก !!!

รักษาหมีกรุ๊ปแต่หนูขอเป็นปร…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *